บุรีรัมย์ - ญาติชายวัย 46 ที่ถูกหลานเจ้าของบ้านสาดพริกป่นใส่ก่อนใช้มีดกระหน่ำฟันนับสิบแผลเสียชีวิตคาห้องน้ำ เผยกระทำรุนแรงโหดเหี้ยมเกิน แต่ไม่อาฆาตแค้นเชื่อกรรมใครกรรมมัน ให้ลงโทษตามกฎหมาย ตำรวจคัดค้านประกันตัว ส่งฝากขังพรุ่งนี้
วันนี้ (29 มิ.ย.) ความคืบหน้าเหตุพบศพนายสงวน ดามทอง อายุ 46 ปี ถูกฆ่าเสียชีวิตในห้องน้ำ บ้านเลขที่ 53 บ้านหลักเขต ม.14 ต.หลักเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของนายเลี่ยม และนางอด สองสามีภรรยา โดยสภาพศพนายสงวนถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมในสภาพไม่สวมเสื้อ ส่วนกางเกงยีนส์ถูกถอดลงมาบริเวณขาช่วงล่าง มีร่องรอยถูกของมีคมกระหน่ำฟันบริเวณท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์ ยาวไปจนถึงใบหูด้านซ้ายขาดออกจากกัน ทั้งยังมีแผลที่บริเวณไหล่ แขนซ้าย และตามร่างกายเกือบ 10 แผล เลือดนองพื้น และกระเด็นติดตามฝาผนังห้องน้ำ และพบพริกป่นติดบนศพผู้ตายกระจายเกลื่อนที่เกิดเหตุ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไปเค้นสอบปากคำที่โรงพักหลายชั่วโมง สุดท้ายทั้งสองจึงยอมเปิดปากว่าคนที่ลงมือก่อเหตุฆ่านายสงวนคือ นายสิทธิศักดิ์ สุระรัมย์ อายุ 44 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของนายเลี่ยม เจ้าของบ้าน ซึ่งก็อยู่บ้านหลังติดกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวนายสิทธิศักดิ์ โดยให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุฆ่านายสงวนจริง โดยอ้างว่าแค้นฝังใจที่เคยถูกนายสงวนถ่มน้ำลายใส่แก้วเหล้า ประกอบกับโกรธแทนลุงเพราะแอบเห็นผู้ตายเล่นชู้กับป้ามาหลายครั้งแล้ว
ขณะที่บรรยากาศวันนี้ทางญาติผู้เสียชีวิตได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้ตายที่บริเวณหน้าห้องน้ำที่เกิดเหตุตามความเชื่อ ทั้งนี้ ได้นำร่างนายสงวนมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านหลักเขต ท่ามกลางความเสียใจของญาติพี่น้อง โดยนายสะเอื้อง ดามทอง พี่ชายนายสงวน บอกว่าการกระทำของผู้ต้องหาถือว่ารุนแรงโหดเหี้ยมเกินไป หากมีเรื่องโกรธแค้นหรือไม่พอใจที่น้องชายทำอะไรผิดก็น่าจะแค่ทุบตีสั่งสอนก็พอแล้ว ไม่น่าจะฆ่าตายโหดเหี้ยมแบบนี้ แต่ส่วนตัวไม่ขออาฆาตแค้น เพราะคิดว่ากรรมใครกรรมมันใครทำแบบไหนก็ได้รับผลกรรมแบบนั้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ให้ตำรวจลงโทษไปตามกฎหมาย
ด้านนางสระงาม ดามทอง พี่สาวบอกว่า ไม่ว่าน้องชายจะทำอะไรให้ไม่พอใจก็ไม่น่าจะฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้ แต่ทางญาติก็ไม่อยากติดใจอาฆาตแค้นคนก่อเหตุ ก็ขอให้ตำรวจลงโทษไปตามกฎหมาย แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้ผู้ต้องหามากราบขอขมาศพ จะได้ไม่ต้องมีเวรกรรมต่อกันอีก
ขณะที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดี เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและมีอัตราโทษสูง เตรียมส่งฝากขังวันพรุ่งนี้ ส่วนสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุยืนยันว่าไม่ได้รู้เห็นหรือร่วมในการก่อเหตุ ซึ่งก็สอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาที่ยืนยันว่าก่อเหตุเพียงคนเดียว จึงได้กันตัวสองสามีภรรยาไว้เป็นพยาน
