ประจวบคีรีขันธ์ - ประชุมทุจริตศาลากลางจังหวัด ไร้คดียักยอก 33 .9 ล้าน ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ กำชับ “ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ” ด้านตำรวจประชุมเครียด หาผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่ม
สืบเนื่องจากคดี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ยักยอกงบประมาณราชการ จำนวน 33.9 ล้านบาท จากการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS จากบัญชีภัยแล้ง 23.2 ล้านบาท บัญชีงบแผนพัฒนาจังหวัดปี 2563 จำนวน 3.2 ล้านบาท บัญชีเงินฝากคลัง 7.3 ล้านบาท พบการกระทำความผิดสร้างข้อมูลหลักฐานเท็จตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 ต่อเนื่องนาน 1 ปี มีการกระทำความผิดรวม 53 ครั้ง ผู้ต้องหาในคดียักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารทางราชการ และใช้เอกสารปลอม
ผู้สื่อข่าว เดินทางไปศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพบนายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์) เพื่อสอบถามข้อมูลความคืบหน้าการแต่งตั้งประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่องการยักยอกเงิน 33.9 ล้านบาท ในสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ได้แจ้งให้สื่อมวลชนที่ไปติดตามทำข่าวว่า “ผู้ว่าราชการจังหวัดกำชับไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เป็นอำนาจของผู้ว่าฯ”
ทั้งนี้ สื่อมวลชนเดินทางไปที่สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่บนศาลากลางจังหวัด ชั้น 2 พบบานประตูกระจกทางเข้าห้องทำงาน พิมพ์ข้อความติดไว้ว่า "ห้ามบุคคลภายนอกเข้า ก่อนได้รับอนุญาต"
หลังจากนั้น สื่อมวลชนได้เดินทางไปยังที่ทำการปกครองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอพบนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมโทรศัพท์แต่ไม่สามารถติดต่อได้
โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ที่ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการประชุมคณะอนุกรรมการการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่มีวาระการยักยอกเงิน จำนวน 33.9 ล้านบาท เมื่อถึงเวลาประชุม สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพการประชุม และได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า เมื่อบันทึกภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอให้ออกจากห้องประชุม เพื่อที่นายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประธาน จะได้เริ่มดำเนินการประชุม ซึ่งระหว่างนั้นมีแต่ความเงียบไม่มีการประชุม เพราะเกรงผลการประชุมรั่วไหล
ส่วนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรันดร ศิริสังข์ไชย พ.ต.อ.วิธิวัตน์ ศรีทองจ้อย รอง ผบก.ภ.จ.ปข. พ.ต.อ.เจริญ ชนสวัสดิ์ พ.ต.อ.ธฤต เรืองเดชา ผู้กำกับ กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พ.ต.อ.ธนาการ วงศ์สิริรักษ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์และตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประชุมติดตามความคืบหน้าคดียักยอกเงิน 33.9 ล้าน ให้ชุดสืบสวนและสอบสวนตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารที่ตรวจยึดได้ที่บ้านผู้ต้องหา เพื่อตรวจดูความสัมพันธ์และความเกี่ยวข้องที่เกิดขึ้น
โดยพบว่า มีการเขียนเช็คเบิกจ่าย จำนวน 3 แสนบาท จากบัญชีงบประมาณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ธนาคารกรุงไทย สั่งจ่ายชื่อเจ้าหน้าที่รายหนึ่งในสำนักงาน
และยังพบว่าตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ.2562 ต้องเก็บเงินสด สมุดบัญชีธนาคาร และเช็คธนาคารไว้ในตู้นิรภัยเก็บเงิน ในห้องมั่นคงหรือกรงเหล็ก ซึ่งต้องมีเจ้าหน้าที่เก็บรักษากุญแจ
นอกจากนี้ ตามระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณ ต้องมีการทำรายงานความเคลื่อนไหวทางบัญชีประจำวันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ
ขณะเดียวกัน ช่วงบ่ายวันนี้ นายประมวล พงษ์ถาวราเดช ส.ส.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมตั้งกระทู้ถามรัฐบาล ในการประชุมสภา กรณีการยักยอกงบประมาณทางราชการ จำนวน 33 ล้านบาท มีการลงลายมือชื่อในสมุดเช็คธนาคารบัญชีงบประมาณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการลงลายชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่าย โดยไม่กรอกตัวเลขจำนวนเงิน และชื่อบุคคลที่สั่งจ่าย รวมถึงเช็คสั่งจ่ายเจ้าหน้าที่รายหนึ่งในสำนักงาน