กาฬสินธุ์ - สลด หนุ่มวัย 44 ปีเกิดอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้ค้อนทุบศีรษะพ่อบังเกิดเกล้าวัย 75 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เสียชีวิตหน้ายุ้งฉาง ฉุนขอข้าวเปลือกพ่อไปขายหาเงินซื้อยาไม่ได้จึงก่อเหตุ ขณะที่ตำรวจตามรวบทันควัน คุมตัวไปทำแผน เบื้องต้น พบประวัติรักษาอาการทางประสาทเสพยาจนหลอน
ผูสื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (24 มิ.ย.) เวลา 20.30 น. พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติพงษ์ ยี่วาศรี ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง ร.ต.อ.ฤทธิ์ เพียงล้ำ ร้อยเวร สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยผึ้ง เข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งเหตุพบศพบริเวณหน้ายุ้งฉางข้าวบ้านชายทุ่งไม่มีเลขที่ ติดกับถนนทางออกบ้านหนองขอนแก่น-หนองอีบุตร ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เบื้องต้น รับแจ้งว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม
ที่เกิดเหตุพบศพ นายสวัสดิ์ ศิริละ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 บ้านหนองอีบุตร หมู่ที่ 1 ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นดินหน้ายุ้งฉางข้าว สภาพสวมเสื้อสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกของแข็งตีที่บริเวณศีรษะเป็นแผลและศีรษะยุบจนเสียชีวิต ใกล้กันพบค้อนตอกตะปูเปื้อนเลือดตกอยู่และท่อนไม้ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นอาวุธในการก่อเหตุ และน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุคือ นายอัครเดช ศิริละ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต และหลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้ขณะเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักเลขที่ 73 บ้านหนองอีบุตร หมู่ที่ 1 ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ จึงนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนทำให้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 13.00 น. นายสวัสดิ์ ผู้ตาย ได้พักอาศัยอยู่บ้านชายทุ่งไม่มีเลขที่หลังที่เกิดเหตุ ส่วนนายอัครเดช ลูกชายแท้ๆ ซึ่งสติไม่ดีเนื่องจากเสพยาบ้าจนหลอนและมีประวัติในการรักษาทางประสาท ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเพื่อจะมาเอาข้าวเปลือกจากยุ้งฉางไปขายเพื่อซื้อยาเสพติดมาเสพ
แต่ระหว่างนั้นลูกชายได้ขอกุญแจเปิดยุ้งฉางจากพ่อ แต่นายสวัสดิ์ ไม่ให้ ทั้งคู่จึงมีปากเสียงกัน ทำให้นายอัครเดช อาศัยจังหวะพ่อเผลอใช้ค้อนทุบบริเวณศีรษะพ่อบังเกิดเกล้าหลายครั้ง จนล้มลงแน่นิ่งเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่จะนำเอากุญแจไปเปิดและนำข้าวเปลือกไปขาย 2 รอบ จนต่อมาหลานสาวผู้เสียชีวิตมาพบกลายเป็นศพ และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้น นายอัครเดช ให้การว่าก่อเหตุจริง แต่ยังให้การวกวนและยังอยู่ในอาการหลอน
จากนั้น พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากการขี่รถจักรยานยนต์มายังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะเข้าไปขอกุญแจกับพ่อแล้วมีปากเสียงกัน และใช้ค้อนทุบศีรษะพ่อจนเสียชีวิต จากนั้นนำเอาข้าวเปลือกไปขายเพื่อซื้อยาเสพติด
พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่า เคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาทเนื่องจากเสพยาเสพติดมานาน แต่รักษาออกมาก็กลับมาเสพและอาการหลอนอีกบ่อยครั้ง พูดจาไม่รู้เรื่อง กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้นเนื่องจากเกิดอาการหลอนและพ่อขัดใจ ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตและครอบครัวค่อนข้างมีฐานะดีเพราะเป็นอดีตหัวหน้าไปรษณีย์อำเภอแห่งหนึ่ง และครอบครัวพยายามรักษาผู้ก่อเหตุแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น
ดังนั้น จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชน หากมีคนในครอบครัวมีอาการและพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์สลดใจเกิดขึ้นอีก
ด้าน นายวรศักดิ์ ศิริละ อายุ 49 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า น้องชายมีอาการทางประสาทเนื่องจากเสพยาเสพติดมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งทางครอบครัวพาไปรักษาหลายครั้ง แต่ก็ยังมีอาการจิตหลอนอาละวาดไม่มีใครเข้าใกล้ได้ และล่าสุด มาก่อเหตุฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าตัวเองในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าบุพการีถึงแก่ความตาย พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
