สุรินทร์ - พายุฝนถล่มตำบลตรึม อ.ศีขรภูมิ เมืองช้าง บ้านเรือน-ยุ้งฉางข้าวพังพินาศยับเยินกว่า 130 หลัง ชาวบ้านต้องวิ่งหนีตายเอาตัวรอด พายุหอบเอาหลังคาบ้านหายไปทั้งหลัง ปลิวไปไกลหลายร้อยเมตร ต้นไม้หักโค่นระเนระนาดทับรถเสียหาย
วันนี้ (27 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก และลมกระโชกรุนแรง ที่บ้านทรัพย์โกฏิ ตำบลตรึม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ แรงลมได้พัดพาเอาหลังคาบ้านเรือนของราษฎร รวมทั้งยุ้งฉาง หลังคาคอกสัตว์เลี้ยง และต้นไม้หักโค่นล้มระเนระนาดทับรถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ประชาชนต่างต้องวิ่งหนีตายเอาตัวรอด
โดยเฉพาะบ้านของ นายพิเชฐ บุตรงาม บ้านเลขที่ 197/1 หมู่ 15 ต.ตรึม อ.ศีขรภูมิ ได้รับความเสียหายหนัก หลังคาถูกแรงลมพัดหลุดออกไปทั้งหลัง ปลิวไปตกที่สนามโรงรถห่างจากบ้านกว่าครึ่งกิโลเมตร หน้าต่างบ้านหลุด กระจกแตก ไม้หักกระจัดกระจาย สภาพในบ้านพังยับเยิน
นางปราณี ศุภนาม อายุ 52 ปี เลขที่ 15 หมู่ 15 บ้านทรัพย์โกฏิ ต.ตรึม อ.ศีขรภูมิ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งไม่ห่างกันมากนัก ขณะนั้นอยู่กับแม่ได้มีทั้งฝนทั้งลมพายุพัดกระหน่ำมาอย่างรุนแรงและเร็วมาก ตนกลัวจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ห่วงแม่เพราะกลัวได้รับอันตรายจึงพากันหลบอยู่ในบ้าน พอเหตุการณ์ทุกอย่างหยุดลงจึงได้มาดูบ้านของนายพิเชฐ พี่ชายถึงกับร้องไห้เมื่อมองเห็นสภาพทุกอย่างพังพินาศลงเพียงแค่ไม่กี่นาทีหลังจากพายุฝนผ่านไป
ทั้งนี้ ไม่แตกต่างกับบ้านของ นางไพ วิสุมา อายุ 72 ปี เลขที่ 9/3 หมู่ 7 บ้านนา ต.ตรึม อ.ศีขรภูมิ แรงลมพัดยกเอาหลังคาบ้านทั้งหลังไปตกอยู่ที่กลางทุ่งนาห่างจากตัวบ้านกว่า 100 เมตร นางไพ เจ้าของบ้านบอกว่า ช่วงที่มีลมฝนพัดมาอย่างรุนแรงเกิดเสียงดังโครมครามตนทำอะไรไม่ถูก หลังพายุฝนผ่านไป บ้านเรือนพังเสียหายยับเยิน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย
ทางด้าน นายสมัย ควรสุข อายุ 53 ปี เลขที่ 18/3 หมู่ 7 บ้านนา ต.ตรึม .ศีขรภูมิ ซึ่งอยู่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ บอกว่า ตอนนั้นตนยืนอยู่ที่คอกวัว มองเห็นพายุหอบเอาหลังคาบ้านปลิวว่อนข้ามหัวไปจึงวิ่งหนีตายเอาตัวรอดไว้ก่อน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กองช่าง อบต.ตรึมได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน ยุ้งฉางข้าว คอกสัตว์ที่ได้รับความเสียหายในหลายหมู่บ้านของ ต.ตรึม ซึ่งพบว่าบ้าน ยุ้งฉาง คอกสัตว์ ได้รับความเสียหายทั้งหมดรวม 136 หลังคา โดยทาง อบต.ตรึม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากทรัพย์สินเสียหายต่อไป