ร้อยเอ็ด - ฝนฟ้าคะนองซ้ำลมแรง ฟ้าผ่าฝูงวัวกว่า 20 ตัวกลางทุ่งนาที่ อ.สุวรรณภูมิ ทำให้วัว 8 ตัวที่มีกระดึงและสายสนตะพายคล้องทองเหลืองเป็นสื่อล่อฟ้าอย่างดีตายคาที่ ส่วนวัวที่เหลือรอดปาฏิหาริย์เพราะไม่ได้สนตะพายคล้องทองเหลือง
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (25 พ.ค.) หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลกู่กาสิงห์ ต.กู่กาสิงห์ อ.เกษตรวิสัย และกู้ภัยเทศบาลเล้าข้าว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ออกร่วมระงับเหตุ หลังได้รับแจ้งจากนายประภาส นามเขต ผู้ใหญ่บ้านกู่กาสิงห์ ม.2 ว่ามีคนและวัวถูกฟ้าผ่าที่บริเวณทำเลเลี้ยงสัตว์โนนเล้าข้าว บ้านเล้าข้าว หมู่ 2 ต.หินกอง อ.สุวรรณภูมิ เขตติดต่อกับ ต.กู่กาสิงห์ อ.เกษตรวิสัย
หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบฝูงวัวกว่า 20 ตัวที่ถูกฟ้าผ่า ตรวจสอบพบหลายตัวปลอดภัย แต่มีวัวในฝูงเดียวกันจำนวน 8 ตัวถูกฟ้าผ่าตาย ใกล้กันพบเจ้าของวัวนอนสลบไม่ได้สติ แต่ไม่มีบาดแผลและไม่มีร่องรอยบาดเจ็บตามร่างกาย จึงได้นำส่งเข้ารับการรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเกษตรวิสัย
จากการสอบถาม นายประภาส นามเขต ผู้ใหญ่บ้านกู่กาสิงห์ หมู่ที่ 2 ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายเฉลิม สังกะสิงห์ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 9 และนายอดิศร ปิตตังถาเน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 2 บ้านกู่กาสิงห์ ต.กู่กาสิงห์ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด กำลังจะไล่ต้อนฝูงวัวกลับเข้าคอกเพราะเห็นว่า ฝนกำลังตก แต่จู่ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมากลางฝูงวัวทั้งหมดกว่า 20 ตัว
จนทำให้วัวทั้งหมดล้มลงพร้อมกับนายเฉลิมที่ยืนอยู่กลางฝูงวัว จากนั้นปรากฏว่าวัวส่วนหนึ่งได้ลุกขึ้น แต่มีวัว 8 ตัวที่คอแขวนกระดึงและมีทองเหลืองอยู่ที่สายสนตะพายเป็นสื่อล่อฟ้าตายคาที่ 8 ตัว ขณะที่นายอดิศร ที่มาเลี้ยงวัวด้วยกัน แต่ไม่อยู่ใกล้ฝูงวัว ได้วิ่งเข้ามาช่วยนวดเฟ้น บีบนวด ปั๊มหัวใจนายเฉลิมจนได้สติ
แต่ยังอยู่ในอาการหูอื้อ ปวดศีรษะ เขียวช้ำรอบดวงตา มีผื่นแดงตามตัว แต่ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย รีบนำส่งโรงพยาบาลเกษตรวิสัยเพื่อให้แพทย์เช็กดูอาการ ซึ่งต่อมานายเฉลิมก็ฟื้นตัวได้สติดี และปลอดภัย
ด้านนายอดิศร ปิตตังถาเน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 2 บ้านกู่กาสิงห์ ต.กู่กาสิงห์ อ.เกษตรวิสัย ผู้อยู่ในเหตุการณ์และรอดจากการถูกฟ้าผ่าอย่างน่าเหลือเชื่อ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เกิดพายุฝนตกหนัก ฟ้าคะนองและลมแรง ตนและนายเฉลิมผู้บาดเจ็บ จึงพากันไล่ต้อนวัวกลับบ้าน แต่พายุฝนตกหนักและลมแรง ฝูงวัวจึงยืนหยุดนิ่งไม่เดินต่อ นายเฉลิมจึงยืนอยู่ใกล้ๆ ฝูงวัว พยายามต้อนวัวกลับ
ส่วนตนได้ไปนั่งหลบฝนและแรงลมอยู่ข้างคูนาห่างจากฝูงวัวประมาณ 7 เมตร จากนั้นก็มองเห็นฟ้าผ่าลงมาในบริเวณทำเลเลี้ยงสัตว์ที่ห่างออกไป 2 ครั้ง และครั้งที่ 3 ฟ้าก็ผ่าลงตรงจุดที่ฝูงวัวยืนอยู่ เห็นฝูงวัวล้มลงและตายอยู่ 8 ตัว เห็นร่างของนายเฉลิมนอนฟุบอยู่ไม่ได้สติ
จึงได้ปฐมพยาบาลด้วยการบีบนวดและปั๊มหัวใจจนได้สติ จากนั้นจึงรีบเปิดเครื่องโทรศัพท์โทร.ไปบอกญาติและผู้ใหญ่บ้านแจ้งกู้ภัยมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล
สำหรับวัวที่ถูกฟ้าผ่าตาย 8 ตัวเป็นวัวของนายเฉลิม 5 ตัว วัวของนายอดิศร 3 ตัว แต่ละตัวเป็นวัวพันธุ์ดี รวมราคาประมาณ 300,000 บาท เพราะราคาตัวละ 3-5 หมื่นบาท จากนั้นจึงได้ขายซากให้เพื่อนบ้านที่มาขอซื้อไปชำแหละในราคาถูก