ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำแถลงผลงานจับกุม “เฮียช้าง” นักธุรกิจชาวจีน เครือข่ายฟอกเงินยาเสพติดรายใหญ่ ทำหลายปีเงินหมุนเวียนกว่าหมื่นล้านบาท จ้างคนเปิดบัญชีใช้รับและโอนเงิน โดยนำไปซื้อทองคำ น้ำมันและสินค้าเกษตรจากผู้ประกอบการแล้วเอาไปขายต่อได้เป็นเงินถูกกฎหมายก่อนโอนออกต่างประเทศ
วันนี้ (25 มิ.ย. 63) ที่ห้องประชุมสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโท ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ,พลตำรวจตรี วีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5, ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5, ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและสำนักงานสรรพากรพื้นที่เชียงใหม่ 1 ร่วมกันแถลงข่าวการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมเครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ นาย Qaing Ma สัญชาติจีน หรือ “เฮียช้าง” ที่มีเงินหมุนเวียนใน 49 บัญชี รวมกว่า 10,120 ล้านบาท และเฉพาะเงินที่ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดมากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งพบว่ามีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดตั้งแต่ปี 60 โดยฟอกเงินด้วยการนำเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดไปซื้อสินค้า เช่น ทองคำ, น้ำมัน, อาหาร, สินค้าเกษตรและปศุสัตว์ แล้วขายต่อได้เงินมาโอนเงินออกต่างประเทศ
ทั้งนี้ การจับกุมสืบเนื่องจากช่วงเดือนมีนาคม ปี 2562 ตำรวจสามารถทำการตรวจยึดยาบ้า 9.4 ล้านเม็ด พร้อมสมุดบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่หลบหนีได้ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีการรับโอนเงินจากกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดและโอนเงินค่ายาเสพติดให้กับกลุ่มบุคคลสัญชาติพม่า โดยอาศัยการทำธุรกรรมการเงินในการรับโอนเงินจากกลุ่มบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้วโอนเงินออกไปยังกลุ่มผู้ประกอบการค้าสินค้าต่างๆ ทั่วประเทศ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 จึงได้สืบสวนจากสถานประกอบการต่างๆ จนทราบว่ามีนักธุรกิจชาวจีนที่ชื่อนายช้างเป็นคนโอนเงินชำระค่าสินค้าและยังใช้บัญชีอื่นๆ อีกรวมจำนวนทั้งสิ้น 49 บัญชีในการโอนเงินมาชำระค่าสินค้า
จากนั้นจึงได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้ง 49 บัญชี พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 10,120 ล้านบาท โดยตรวจสอบพบว่าผู้เปิดบัญชีมีทั้งคนไทยจีนและคนสัญชาติพม่า เป็นบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากนั้นโอนเงินออกไปยังผู้ประกอบการการค้าระหว่างประเทศไทยและจีนเป็นค่าชำระสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งโอนเงินไปยังบริษัทค้าทองคำ, บริษัทค้าน้ำมัน, บริษัทส่งออกผลไม้ อาหารทะเล, ผู้ประกอบการส่งออกปศุสัตว์ เช่น วัว และควาย โดยจากการนำข้อมูลเส้นทางการเงินในจำนวน 49 บัญชีมาตรวจสอบกับฐานข้อมูลจับกุมยาเสพติดเดิมพบว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดที่เคยสอบสวนจับกุมมีการรับโอนเงินจำนวน 8 บัญชี เช่น เครือข่ายมันทุกเม็ด, เครือข่ายไอซ์ 500 กิโลกรัม ของอดีตนางแบบปลุกใจเสือป่า เป็นต้น
ขณะที่จากการสอบสวนนายช้าง นักธุรกิจชาวจีนผู้ต้องหา ซึ่งรับว่าได้โอนเงินชำระค่าสินค้าจริงโดยจะให้ลูกค้าที่ประเทศจีนโอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชีเครือข่ายนายช้างในประเทศจีน ส่วนนายช้างจะใช้บัญชีต่างๆ ในประเทศไทย ที่เป็นบัญชียาเสพติดหรือโพยก๊วน เป็นผู้โอนเงินชำระค่าสินค้าให้กับกลุ่มผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดที่จับกุมได้นั้นสามารถแยกบัญชีที่ใช้โอนเงินในเครือข่ายได้เป็น 4 กลุ่มดังนี้ 1.บัญชีของผู้ค้ายาเสพติดโดยตรง 2. บัญชีของคนใกล้ชิดที่เปิดให้ผู้ค้ายาเสพติด 3. บัญชีของบุคคลรับจ้างเปิดบัญชีโดยรับค่าตอบแทนตามที่ตกลงกัน โดยแบ่งการรับจ้างเปิดเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ มีคนรู้จักชักชวนให้รับจ้างเปิดบัญชีและรับจ้างเปิดบัญชีจากการประกาศโฆษณาผ่านเว็บหรือสื่อโซเชียลต่างๆ และ 4. เปิดบัญชีให้บุคคลอื่นที่รู้จักนำไปใช้
จากพยานหลักฐานสามารถสรุปรูปแบบการดำเนินงานฟอกเงินของขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศไทยได้ดังนี้ คือ 1. มีการว่าจ้างให้บุคคลรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้กระบวนการนำไปใช้ซึ่งผู้รับจ้างเปิดบัญชีมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติบัญชีธนาคารส่วนหนึ่งนำไปใช้ที่โต๊ะแลกเปลี่ยนเงินตามแนวชายแดน 2. ขบวนการค้ายาเสพติดเมื่อลักลอบนำเข้าและกระจาย จำหน่ายยาเสพติดแล้วผู้ค้ายาเสพติดทั้งรายย่อยรายการจะชำระเงินค่ายาเสพติดโดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารที่โต๊ะแลกเปลี่ยนเงินตราตามแนวชายแดนนำไปใช้ และ 3. เจ้าของยาเสพติดไม่ต้องการรับชำระเงินค่ายาเสพติดจะให้บุคคลในเครือข่ายสั่งการให้โต๊ะแลกเปลี่ยนเงินตามแนวชายแดนดำเนินการโอนเงินที่มีที่มาจากการค้ายาเสพติดไปยังบัญชีธนาคารผู้ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศไทย จีน พม่า และกัมพูชา เช่น บริษัทค้าทองคำ บริษัทค้าน้ำมัน บริษัทส่งออกผลไม้ เป็นต้น เพื่อเป็นค่าซื้อสินค้า เมื่อแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าแล้วจะนำสินค้า เช่น ทองคำ น้ำมันผลไม้ เนื้อสัตว์ ไปจำหน่ายต่อ เมื่อได้เงินค่าสินค้าแล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกลุ่มขบวนการฟอกเงินเป็นเงินค่าสินค้าถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้จึงอยากเตือนภัยเรื่องการรับจ้างเปิดบัญชีในการหรือยอมผู้อื่นเอาบัญชีไปใช้ว่ามีโทษทางกฎหมาย หากบัญชีถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในทางทุจริตอาจกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการกระทำผิดอาญาหรือขบวนการฟอกเงินหรือการฉ้อโกงคนอื่นได้ ดังนั้นจึงไม่ควรเปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลทั้งที่รู้จักหรือไม่รู้จัก นำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินโดยเด็ดขาด แต่สำหรับผู้ที่เคยเปิดบัญชีธนาคารให้ผู้อื่นแนะนำรีบปิดบัญชีโดยเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้เหล่ามิจฉาชีพนำไปใช้เป็นเครื่องมือกระทำการทุจริต จะได้ไม่เดือดร้อนในภายหลัง