MGR Online - “รมว.ยุติธรรม” แจงยึดทรัพย์คดียาเสพติดทั่วประเทศ ช่วงเดือน พ.ค.- มิ.ย. 63 มูลค่ากว่า 450 ล้านบาท พบธุรกรรมการเงินเชื่อมโยงร้านทองต่างๆ อีก 12,000 ล้านบาท เร่งสืบสวนหวังตัดวงจรเส้นทางการเงินให้มากที่สุด
วันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 13.30 น. ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วย ผบ.ตร. นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้แทนจาก ปปง. และกรมสรรพากร ร่วมแถลงผลงานบูรณาการยึดทรัพย์สิน ตัดเส้นทางการเงินเครือข่ายยาเสพติด มูลค่า 450 ล้านบาท และเงินหมุนเวียนที่จะตรวจสอบในบัญชี มูลค่า 12,000 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อํานวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้รับนโยบายจากรัฐบาลเร่งรัดดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งปัจจุบันการตัดวงจนเส้นทางยาเสพติดให้ได้ผลต้องทำการยึดทรัพย์ของผู้กระทำผิด หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดให้ได้มากที่สุด จึงจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ตามคำสั่ง ศอ.ปส.ที่ 5/2563 ลงวันที่ 21 ก.พ. 63 พร้อมแต่งตั้งคณะทำงานสืบสวน สอบสวนขยายผล เพื่อการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ตามคำสั่ง ศอ.ปส. ที่ 7/2563 ลงวันที่ 4 มี.ค. 63 โดยมุ่งเน้นความเข้มข้นในการทำลายเครือข่าย และการติดตามยึดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ. 2534, พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า คณะทำงานสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ตามคำสั่งที่ 7/2563 โดยร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนสามารถขยายผลยึดทรัพย์สิน ในห้วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 63 รวมมูลค่ากว่า 450 ล้านบาท ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์สินได้ไม่เกิน 700 ล้านบาทต่อปี แต่งบปี 63 ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ถึง 1,500 ล้านบาท ส่วนในงบปี 64 ตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ตนมีความมั่นใจว่า สามารถทำได้ เพราะมีข้อมูลเครือข่ายยาเสพติดมีเงินหมุนเวียนสะพัดกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องใช้ความสามารถเพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงยึดเงินจำนวนดังกล่าว เพราะพบว่าธุรกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ในวงเงินประมาณ 170,000 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.ท.วิสนุ เผยว่า จากการดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล ในช่วงเดือน พ.ค.- มิ.ย. 63 สามารถยึดทรัพย์ทำลายเครือข่ายยาเสพติด อาทิเช่น เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 63 ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมยึดอายัดทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 768 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหา 934 คน ยึดทรัพย์สินได้ทั้งหมด จำนวน 557 รายการ มูลค่า 135 ล้านบาท ต่อมา ช่วงระหว่างวันที่ 14-16 มิ.ย. พบเป้าหมายรายสำคัญที่มีการโอนเงินค้ายาเสพติดเข้าไปยังกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นร้านค้าทองคำและกลุ่มกิจการต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่บูรณาการร่วมกันทำลายเครือข่ายทั่วประเทศ จำนวน 20 เครือข่าย จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 241 คน ยึดของกลางยาเสพติด ได้แก่ ยาบ้า 4.2 แสนเม็ด ไอซ์ 4.9 กิโลกรัม รวมยึดทรัพย์สินได้ทั้งหมด จำนวน 278 รายการ มูลค่า 70 ล้านบาท การจับกุมดังกล่าวพบความเคลื่อนไหวธุรกรรมทางบัญชีของผู้ประกอบการร้านทอง มีกระแสเงินหมุนเวียนในห้วง 3 ปีที่ผ่านมา วงเงินประมาณ 170,000 ล้านบาท จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีบัญชีที่มีกระแสเงินจากการค้ายาเสพติด เข้าไปในกลุ่มผู้ค้าร้านทอง และกลุ่มกิจการต่างๆ รวมประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยจะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.ท.วิสนุ เผยอีกว่า จากนั้น วันที่ 19 มิ.ย. ปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อเนื่อง จ.ชลบุรี และ จ.กาญจนบุรี สามารถจับกุมตามหมายจับ 8 หมาย หมายค้น 22 หมาย และยึดอายัดทรัพย์สิน เช่น เงินสด, เงินในบัญชี, รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อาวุธปืน, ทองรูปพรรณ และที่ดินพร้อมโฉนด รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้น มูลค่า 83 ล้านบาท สรุปผลการปฏิบัติในห้วงเดือน พ.ค.- มิ.ย. 63 ตามคำสั่ง ศอ.ปส.ที่ 7/2563 มีผลการดำเนินการ ดังนี้ สามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติด ได้ทั้งสิ้น 43 เครือข่าย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 1,346 คน โดยมีผลการตรวจยึด ยาบ้า ได้กว่า 25 ล้านเม็ด ไอซ์ 321 กิโลกรัม เคตามีน 1 กิโลกรัม เฮโรอีน 3.5 กิโลกรัม และกัญชา 420 กิโลกรัม รวมทรัพย์ที่ตรวจยึดได้ทั้งสิ้น 1,773 รายการ มูลค่า 450 ล้านบาท และมีธุรกรรมทางบัญชีของผู้ประกอบการที่มีกระแสเงินจากการค้ายาเสพติด ที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ ประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป