แพร่ – ผู้ว่าฯแพร่-รองอธิบดีกรมทรัพย์ฯ ขอโทษ พร้อมเปิดเวทีนำคณะแจงปมซ่อมบ้านโบราณบอมเบย์เบอร์มา สุดท้ายเหลือแต่ซาก พอถามถึง TOR-แผนผังสภาพบ้าน-หมุดหมาย/บัญชีองค์ประกอบบ้าน..ตอบไม่ชัด ด้านกรมศิลป์ยันรู้เรื่องก็ทุบแล้ว เตรียมส่งทีมเก็บรายละเอียดก่อนคุมงานสร้างใหม่
บ่ายวันนี้(19 มิ.ย.) นางกานต์เปรมปรีย์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานฯนำผู้เกี่ยวข้องทั้งนายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่13 ,นายสมหวัง เรืองนิรัติศรัย รองอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ,นายต่อศักดิ์ ลาภมาก ผู้แทนห้างหุ้นส่วนจำกัดโกสินทร์ก่อสร้าง-ผู้รับจ้าง , สำนักศิลปากรที่ 7 จ.เชียงใหม่ เปิดเวทีชี้แจงกรณีผู้รับผิดชอบจ้างผู้รับเหมาทุบทำลายบ้านโบราณบอมเบย์เบอร์มา ภายใต้โครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ สวนรุกขชาติเชตวัน ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นราวปี 2432 หรือประมาณ 131 ปี สุดท้ายเหลือแต่ซาก
โดยมีตัวแทนภาคประชาชน เครือข่ายภาคีรักษ์เมืองเก่า , นายเอกชัย วงศ์วรกุล ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ , นางพรรณี แสงสันต์ เลขานายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส. แพร่ , นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ , นายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าร่วม
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กล่าวแสดงความเสียใจ พร้อมกับขอโทษชาวแพร่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าทางจังหวัดฯมีเจตนาในการอนุมัติให้ซ่อมแซมอาคารบ้านโบราณดังกล่าวไม่ใช่รื้อถอน จากนั้นได้เปิดให้นายอิศเรศ สิทธิโรจนกุล ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ชี้แจงว่าโครงการฯนี้ เป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แต่ได้มอบให้ผู้รับจ้างไปทำงานตามแผนที่สถาปนิกสำรวจออกแบบในTOR
จากนั้นนายอิศเรศ ได้ให้ตัวแทนผู้รับจ้างคือห้างหุ้นส่วนจำกัดแพร่โกสินทร์ก่อสร้าง ได้ทำการชี้แจงต่อด้วย แต่ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนนักว่า ทำไมงานซ่อมอาคารกลายเป็นการรื้อถอน ผู้รับจ้างพยายามโชว์เอกสารว่าทำตามขั้นตอน แต่ที่ประชุมไม่รับฟัง มีเสียงต่อว่าผู้รับจ้างว่าทำไปทำไม..ก่อนที่ตัวแทนผู้รับจ้างจะบอกว่า อดีตก็เป็นคนในชุมชนเชตวันเหมือนกัน แต่ที่ทำไปเพราะผู้ว่าจ้าง
นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ชี้แจงว่าเอกสารที่มีการออกมาเผยแพร่เป็นเอกสารมอบอำนาจให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 13 รับผิดชอบงบประมาณ ส่วนโครงการนี้มาจากกลุ่มงานยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของจังหวัดฯ ที่เน้นไปที่พัฒนาเมืองเก่า เป็นหนึ่งในโครงการตามแผนพัฒนาเมืองเก่า แต่สภาพที่เห็นก็รู้สึกเหมือนกันว่าไม่ถูกต้องนัก
กลุ่มอนุรักษ์และสื่อมวลชน ได้สอบถามถึงหลักฐาน TOR และผลการศึกษาทางวิชาการเกี่ยวกับสภาพบ้านก่อนการรื้อถอน รวมทั้งการถอดประกอบว่า ผู้รับจ้างได้ทำเครื่องหมายกำหนดตำแหน่งของวัสดุแต่ละชิ้นหรือไม่ ซึ่งทั้ง 3 กรณีไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากผู้รับผิดชอบ
กระทั่งนางพรรณี แสงสันต์ เลขาฯนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.แพร่ ที่มองเห็นความสับสนของการดำเนินงาน ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่านายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ และนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้รวมหลักฐานกรณีส่ง ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วในวันนี้
นายไกรสิน อุ่นใจจินต์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ผู้แทนจากกรมศิลปากร ระบุว่า ตามขั้นตอนกฎหมายต้องแจ้งกรมศิลป์อนุมัติก่อน แต่โครงการดังกล่าวเพิ่งไปถึงสำนักศิลปากรที่ 7 ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ พอทราบเรื่องอีกครั้งก็มีข่าวอาคารมีสภาพถูกรื้อถอนแล้ว จึงได้เข้ามาดู ซึ่งจะเรียกทุกอย่างกลับคืนไม่ได้แล้ว จึงควรให้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ เพราะอาคารนี้เข้าข่ายโบราณสถานชัดเจน
“สิ่งที่ต้องคำนึงในการบูรณะใหม่ คือต้องอยู่ที่เดิม วัสดุสำคัญที่มีอยู่ ศิลปะการทำงานของช่างไม้ในยุคนั้น สัดส่วนของบ้านรวมทั้งจิตวิญญาณความเป็นพื้นที่การป่าไม้ ซึ่งทีมทำงานเก็บรายละเอียดของกรมศิลปากรจะเริ่มเข้ามาทำงานในวันที่ 21 มิถุนายนนี้”
นายสมหวัง เรืองนิรัติศรัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์ กล่าวว่ากรมอุทยานฯต้องขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมหางบประมาณในการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร ซึ่งอาจทำเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติการป่าไม้ไปเลย
อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่มีการเปิดเวทีฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถให้รายละเอียดกรณีที่การดำเนินโครงการปรับปรุงซ่อมแซม ที่ทำให้บ้านโบราณบอมเบย์เบอร์มาเหลือแต่ซากได้ ดังนั้นจึงมีเสียงเรียกร้องให้ดำเนินการสอบหาข้อเท็จจริง-ผู้รับผิดชอบที่ทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าว เพื่อดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา พร้อมๆกับการฟื้นฟูต่อไป
