เชียงราย - ผู้เสียหายถูกแก๊งตุ๋นทำงาน “อุทยานฯ ถ้ำหลวง” โผล่แจ้งความเพิ่ม..เผยหลักฐานโอนเงินจ่ายหัวคิวรายละ 40,000-100,000 บาท บางรายจ่ายค่าทำบัตร-ตัดชุดใหม่อีกหลายพัน นัดรวมตัวร้องศูนย์ดำรงธรรม จันทร์นี้เกือบร้อยราย
วันนี้ (13 มิ.ย.) กลุ่มผู้เสียหายทั้งชายและหญิงรวม 27 คน ได้พากันนำหลักฐานสลิปโอนเงินของธนาคารเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ว่าถูกหญิงอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) เรียกรับเงินรายละ 41,200-100,000 บาท แลกฝากเข้าทำงานในอุทยานแห่งชาติฯ ดังกล่าว
แต่ปรากว่ฏาหลังจากโอนเงินให้กับหญิงคนดังกล่าวแล้วกลับก็ไม่ได้งานตามที่รับปาก และต่อมายังทราบข่าวว่ามีผู้ถูกหลอกลวงพากันไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วได้รับเงินคืน จึงพากันไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อหวังจะได้เงินคืนด้วย เพราะแต่ละคนต่างก็ประสบความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
นายนิรุจ มโนรา อายุ 36 ชาว อ. เทิง จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนทำงานรับจ้างทั่วไปและหวังจะได้ทำงานที่ดีขึ้น กระทั่งได้รับการติดต่อว่าสามารถช่วยให้เข้าทำงานในอุทยานฯ ถ้ำหลวงได้จึงยอมจ่ายเงินตามที่มีการเรียกร้อง 70,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการให้ความหวังว่าได้งานแน่ ทำให้ตนจ่ายค่าทำบัตรเข้าทำงานใหม่และค่าตัดชุดอีกประมาณ 2,000 กว่าบาทด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่มีการเรียกตัว ต่อมาทราบว่ามีคนถูกหลอกแบบเดียวกันเป็นจำนวนมาก
ผู้เสียหายอีกคนกล่าวว่า ตนได้รับการติดต่อจากกลุ่มนายหน้าที่เป็นเครือญาติและคนในหมู่บ้านจึงน่าเชื่อถือ พวกเขาอ้างว่ามีคนที่สามารถบรรจุให้เข้าทำงานดังกล่าวได้ จึงไปกู้ยืมบางคนก็นำโฉนดที่ดินไปจำนอง นำเงินไปให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าทางการกำลังพัฒนายกระดับอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ จึงเพิ่มพนักงานอีกหลายอัตราทำให้พวกตนยิ่งเชื่อถือกันมากขึ้น และในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.นี้ ผู้เสียหายทั้งหมดคาดว่ามีประมาณ 90 กว่าคนจะนำเอกสารหลักฐานเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย เพื่อให้ช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในท้องที่ อ.เมืองเชียงราย และ อ.แม่สาย มาแล้วอย่างน้อย 2 ราย โดยต่างระบุว่าถูกเรียกรับเงินประมาณ 70,000 บาท แลกกับการบรรจุเข้าทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ได้ และมีการเปิดกลุ่มไลน์เพื่อการสื่อสารกันอย่างชัดเจน ก่อนที่จะมีการโอนเงินคืนให้เต็มจำนวนในเวลาต่อมา
ขณะที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ก็มีประกาศเตือนมาแล้ว 2 ครั้งในเดือน ก.ย. 2562 และอีกครั้งในวันวันที่ 14 พ.ค. 2563 โดยมีเนื้อหาเตือนว่าการแอบอ้างดังกล่าวไม่เป็นความจริงและผู้ที่สงสัยติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ
พร้อมกันนั้นสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ย้าย น.ส.ฤทัยวรรณ ปฏิเสน พนักงานราชการสังกัดอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ไปประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ในช่วงที่มีการตรวจสอบ รวมทั้งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยและให้นายกวีไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเอาไว้อีกทางหนึ่งแล้วด้วย
