เชียงราย - ผอ.สบอ.15 เชียงราย..สั่งสอบข้อเท็จจริง จนท.แอบอ้างรีดเงินแลกฝากบรรจุเข้าทำงานหัวละ 7 หมื่น พร้อมเด้ง จนท.สาวพ้นถ้ำหลวง-สอบวินัยซ้ำ พบขบวนการหลอกเหยื่อรีดหัวคิวแลกงานเปิดไลน์ลับ-ตู้ ปณ.รับเอกสารพร้อมสรรพ
ความคืบหน้ากรณีผู้เสียหาย 2 รายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย จ.เชียงราย และ สภ.เมืองเชียงราย ว่าถูกกลุ่มคนเป็นชาย 1 และหญิง 1 ซึ่งทำงานอยู่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ฐานฉ้อโกง เรียกรับเงินรายละ 70,000 บาท อ้างว่าเพื่อแลกกับการช่วยให้เข้าทำงานในอุทยานฯ ถ้ำหลวง
ล่าสุดวันนี้ (25 พ.ค.) พ.ต.ท.หญิง ชลธิชา ธรรมสอน สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย ซึ่งได้รับแจ้งความจากเจ้าทุกข์ที่เป็นชายอายุ 27 ปีชาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งชายคนดังกล่าวพร้อมแฟนสาวแจ้งว่าปัจจุบันได้เจรจากับชายกับหญิงดังกล่าว และได้รับการโอนเงินคืนครบทั้ง 70,000 บาทแล้ว
น.ส.ไก่ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี แฟนของเจ้าทุกข์ กล่าวว่า หลังได้รับการติดต่อว่ามีเจ้าหน้าที่ในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ สามารถช่วยให้เข้าทำงานได้ แฟนตนก็ได้ลาออกจากงานแล้วนำเงินที่เก็บไว้ไปจ่ายให้ แต่พอรู้ว่าถูกหลอกก็พยายามเจรจาขอเงินคืน กระทั่งตกเป็นข่าว วันนี้ (25 พ.ค.) ถึงได้มีการโอนเงินคืนให้แฟนของตนทั้งหมดแล้ว
ดังนั้น ส่วนตัวก็ไม่ติดใจเอาความใดๆ แต่ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ขอเตือนให้ผู้ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อได้ระมัดระวังอย่าได้หลงถูกหลอกเหมือนกับแฟนตนอีก ไม่เช่นนั้นจะเดือดร้อนหนักและอาจไม่โชคดีได้เงินคืนเหมือนครอบครัวตนก็ได้
ด้านนายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ได้สั่งการให้นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ รวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่หลอกลวงดังกล่าวที่ สภ.แม่สาย และได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยและอาญาที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม กรณีคดียังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงได้ลงบันทึกประจำวันต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ไว้เป็นหลักฐานก่อน
นอกจากนี้ได้มีคำสั่งให้ย้าย น.ส.ฤทัยวรรณ ปฏิเสน พนักงานราชการสังกัดอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ไปประจำที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ในช่วงที่มีการตรวจสอบ แต่ให้ไปอยู่ที่สวนรุกขชาติโป่งสลี อ.เมืองเชียงราย ชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่ามีขบวนการที่ก่อเหตุหลอกลวงว่าสามารถช่วยให้ทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ จริง เป็นหญิง 1 คน และชาย 1 คน โดยกรณีฝ่ายชายเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ และเกิดเหตุมาแล้วหลายครั้งๆ แรกช่วงเดือน ก.ย. 2562 เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีผู้แอบอ้าง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ได้มีประกาศแจ้งเตือนมาครั้งหนึ่งแล้วแต่ไม่ปรากฏตัวผู้เสียหายทำให้เรื่องเงียบหายไป
กระทั่งครั้งนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ 2 ราย และพบมีการเปิดตู้ ปณ.ที่ อ.แม่สาย เพื่อให้เหยื่อส่งเอกสารเกี่ยวกับการขอเข้าทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ ด้วย ประกอบกับทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามผู้เสียหายบางรายทำให้มีหลักฐานมากกว่าเดิม ทางนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งการให้นายกมลไชยตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพราะถือว่าสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์
นายกมลไชยกล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นขบวนการหลอกลวงที่ไม่มีข้อเท็จจริง เพราะปัจจุบันอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ หรือแม้แต่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ไม่ได้มีการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่มาทำงานแต่อย่างใด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรับสมัครคน นอกจากนี้ เมื่อสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและพบว่าผู้กระทำการดังกล่าวได้เปิดตู้ ปณ.รับเรื่องจากเจ้าทุกข์เอาไว้ด้วยทำให้มีหลักฐาน
ดังนั้นจึงได้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้ให้เวลาคณะกรรมการรายงานผลภายใน 7 วัน ปัจจุบันผ่านมาแล้ว 2 วันปรากฏว่าคณะกรรมการต้องใช้เวลารวบรวมพยานจำนวนมากเพราะทราบว่ามีการเปิดกลุ่มไลน์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เกือบ 100 คน จึงขอเลื่อนเวลาออกไปอีกเล็กน้อย ซึ่งผลที่ได้ก็จะนำมาดำเนินการทางวินัยและอาญาตามที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะพิจารณาดำเนินการต่อไป