วันนี้ (7 ก.พ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า ได้ทราบรายงานการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองบริเวณหาดไม้ขาว หมู่ที่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นับเป็นรังที่ 9 ที่พบนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 62 โดยพบการวางไข่เป็นรังแรก สำหรับการวางไข่ของเต่ามะเฟืองในพื้นที่ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเล เพราะถึงแม้ว่าพื้นที่อยู่ติดสนามบินภูเก็ต เต่ามะเฟืองยังสามารถขึ้นมาวางไข่ได้เลย นอกจากนี้ ตนได้ทราบว่าผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เป็นผู้รายงานข่าวให้หน่วยงานในพื้นที่ทราบ ต้องชื่นชมผู้ใหญ่บ้านรวมถึงชุมชนในพื้นที่ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางหน่วยงานรัฐ
นายวราวุธเผยอีกว่า ได้มอบนโยบายแก่นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. ถึงการเสริมสร้างความร่วมมือและการตระหนักรู้ของชุมชนในการมีส่วนร่วมด้านการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งสู่ความยั่งยืน ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความถึงแค่กรณีเต่ามะเฟือง แต่หมายความรวมถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอื่นๆด้วย อย่างไรก็ตาม ขอฝากไว้ว่า “ความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ในทำนองเดียวกับความตระหนักรู้และความร่วมมือของชุมชนและประชาชนก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ยังคงเชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนทุกคน คือ แรงขับสำคัญในการรักษาและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืน เพื่อส่งผ่านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์ไปให้แก่คนรุ่นต่อไป”
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเสริมว่า ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สทช. 6) แจ้งว่า นายวินัย แซ่ตัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ได้แจ้งการพบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองบริเวณหาดไม้ขาว หมู่ที่ 4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ห่างจากรันเวย์ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 1,000 เมตร โดยคาดว่ามีการวางไข่เมื่อช่วงคืนวันที่ 6 ก.พ. 63 ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ สทช.6 พร้อมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบทันที อีกทั้ง เนื่องจากพบการวางไข่ของเต่ามะเฟืองรังดังกล่าวผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว จึงไม่ได้มีการขุดเพื่อตรวจสอบภาพและนับจำนวนไข่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟักไข่ได้ ในการนี้ ตนได้สั่งการให้ดำเนินการกั้นคอกล้อมไว้และให้ประสานดำเนินงานร่วมกับอุทยานแห่งชาติสิรินาถ และศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติฯ ที่ 2 ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ กองทัพเรือตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ร่วมติดตามเฝ้าระวัง และได้ให้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยต่อหลุมฟักไข่ดังกล่าวแล้ว
“สุดท้ายขอย้ำว่าเต่ามะเฟืองได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการล่า โทษสำหรับสัตว์ป่า สงวนคือ จำคุก 3-15 ปี ปรับ 300,000-1,500,000 บาท และในกรณีครอบครอง มาตรา 17 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่า โทษครอบครองคือจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท” อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าว