นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. สนธิกำลังกรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้าตรวจสอบที่ดินของ นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีต ส.ส.ปราจีนบุรี และที่ดินของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีการนำรถแบ็กโฮ 3 คัน เข้าไปขุดปรับพื้นที่บนเนินเขา และใช้รถดันต้นไม้ล้มเป็นบริเวณกว้างโดยนำมากองรวมกัน และจุดไฟเผา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนดทับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 6 จุด รวม 11 ไร่เศษ ครอบคลุมด่านเนินหอม ไปจนถึงอ่างเก็บนํ้าคลองไม้ปล้อง หมู่ 14 ต.เนินหอม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งต่อมา ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี เพื่อแจ้งความกล่าวหาว่า บุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง และทำให้เสื่อมสภาพ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม ทำประการใดๆ ให้เสื่อมสภาพซึ่งทรัพยากรธรรมชาติ เข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ ความดังทราบแล้วนั้น
การกระทำดังกล่าว หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง นางกนกวรรณ ซึ่งเป็น ส.ส.และดำรงตำแหน่งรมช.ศึกษาฯ ควรรู้ว่า การบุกรุก เข้ายึดถือครอบครองป่า และทำให้เสื่อมสภาพอุทยานฯ ฯลฯ เป็นการฝ่าฝืนนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาโดยตรง และเป็นการกระทำที่ส่อไปในทางที่ผิดกฎหมายหลายฉบับ และมีโทษหนัก โดยเฉพาะ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 และฉบับ 2562 ม.19(1) ประกอบ ม.41 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้น ยังส่อเป็นการขัด หรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ 2561 อย่างร้ายแรง ในข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 9 ที่ระบุว่า ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองหรือผู้อื่นและหรือประโยชน์อื่นใดในประการที่อาจทําให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหาก ป.ป.ช. วินิจฉัยว่ามีความผิด ก็อาจนำไปสู่การสิ้นสุดลงของตำแหน่ง รมช.และส.ส. ตามมาตรา 101(7) ประกอบ ม.160 ม.185 และ ม.186 ของรธน. 60 ได้
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯจึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิด ตามครรลองของกฎหมายต่อไป ในวันนี้ (27 ม.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานป.ป.ช.
การกระทำดังกล่าว หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง นางกนกวรรณ ซึ่งเป็น ส.ส.และดำรงตำแหน่งรมช.ศึกษาฯ ควรรู้ว่า การบุกรุก เข้ายึดถือครอบครองป่า และทำให้เสื่อมสภาพอุทยานฯ ฯลฯ เป็นการฝ่าฝืนนโยบายของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาโดยตรง และเป็นการกระทำที่ส่อไปในทางที่ผิดกฎหมายหลายฉบับ และมีโทษหนัก โดยเฉพาะ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2504 และฉบับ 2562 ม.19(1) ประกอบ ม.41 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี หรือปรับตั้งแต่สี่แสนบาทถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนั้น ยังส่อเป็นการขัด หรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ 2561 อย่างร้ายแรง ในข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 9 ที่ระบุว่า ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเองหรือผู้อื่นและหรือประโยชน์อื่นใดในประการที่อาจทําให้กระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหาก ป.ป.ช. วินิจฉัยว่ามีความผิด ก็อาจนำไปสู่การสิ้นสุดลงของตำแหน่ง รมช.และส.ส. ตามมาตรา 101(7) ประกอบ ม.160 ม.185 และ ม.186 ของรธน. 60 ได้
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯจึงจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิด ตามครรลองของกฎหมายต่อไป ในวันนี้ (27 ม.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ สำนักงานป.ป.ช.