“วราวุธ” รอ 3 หน่วยงานสอบที่มาโฉนดที่ดิน “กนกวรรณ” รุกป่าอุทยานฯ เขาใหญ่หรือไม่ ย้ำใช้กฎหมายมาตรฐานเดียวกัน ยันเร่งจัดการปัญหาที่ดิน “ปารีณา” ไม่มีละเว้น
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.40 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ถึงกรณีที่นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถูกกล่าวหาว่าครอบครองที่ดินที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่า กรณีที่ดินในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่ 1 คือ มีการเข้าไปบุกรุกนอกโฉนด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายด้วยการไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว และส่วนที่ 2 คือบริเวณที่มีข้อกังขาว่ามีการออกโฉนดหรือเอกสารสิทธิทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติดังกล่าว ก็ต้องมีการไปตรวจสอบว่าโฉนดแปลงนั้นถือกำเนิดมาได้อย่างไร มาจากใบ ส.ค.หรือไม่ หรือมีมาตั้งแต่ก่อนประกาศว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในปี 2505 แล้วตกทอดมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นโฉนดในปัจจุบัน หรือมีการทับซ้อนกันจริง ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืิช กำลังตรวจสอบ แต่ต้นกำเนิดของใบสิทธิการครอบครอง ต้องไปตรวจสอบไล่เรียงว่าเกิดมาอย่างไร หากพบว่าเอกสารแสดงสิทธิครอบครองที่ดินออกมาก่อนการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็เป็นสิทธิที่เขาสามารถอยู่ได้ แต่ถ้ามีการประกาศเป็นเขตพื้นที่อุทยานฯ ไปแล้ว แล้วเขามาครอบครองที่ดินภายหลังก็ถือว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ
“ทั้งนี้ ขอยืนยันว่ากระทรวงทรัพยากรฯ ให้ความสำคัญต่อการดำเนินการตามกฎหมายโดยใช้กฎหมายเดียวกัน และมีมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นใคร หากพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ไม่มีอะไรต้องหนักใจ” นายวราวุธกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลจะเกิดปัญหาในการตรวจสอบ จะถูกมองว่าเป็นการลูบหน้าปะจมูกหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า กฎหมายเป็นฉบับเดิม เราไม่มีปัญหา ทุกอย่างว่ากันไปตามตัวหนังสือและตามบทบัญญัติของกฎหมายที่มี ส่วนที่มีการไปแผ้วถางในพื้นที่นอกโฉนดที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทางกระทรวงฯ ได้ดำเนินการแจ้งความไปแล้ว
เมื่อถามว่าจะใช้เวลาตรวจสอบเรื่องนี้นานแค่ไหน นายวราวุธกล่าวว่า ตนกำลังรอการรายงานจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เพราะก็ไม่เคยทำเรื่องการสืบเอกสารลักษณะดังกล่าว จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งกรมที่ดิน กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ พูดคุยให้ได้ข้อสรุปว่าเอกสารดังกล่าวออกมาเมื่อไหร่ ตนยังตอบไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาในการตรวจสอบนานแค่ไหน แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นที่สิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบ
เมื่อถามอีกว่าทางกระทรวงฯ ตรวจพบว่ามีนักการเมืองคนอื่นเข้าไปถือครองพื้นที่ที่บุกรุกป่าเช่นนี้อีกหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า “โอ้โห ถ้าจะไปตรวจสอบ ส.ส.ทั้ง 500 คน ก็คงต้องให้เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรฯ ไปไล่ดูเอกสาร จาก ป.ป.ช. ซึ่งเราคงไม่มีเวลาขนาดนั้น แต่ ณ วันนี้เท่าที่ได้รับรายงานว่ายังไม่ทราบว่ามีรายอื่นอีกหรือไม่ แต่ในอนาคตมีเรื่องที่อยากให้ทางกระทรวงฯ ขึ้นหน้าสื่อ เดี๋ยวก็คงมีข่าวเข้ามาอีก
นอกจากนี้ นายวราวุธยังกล่าวถึงกรณีที่นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ทวงถามถึงความคืบหน้าคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบและรุกล้ำพื้นที่ป่าไม้และป่าสงวน ใกล้แม่น้ำภาชี ว่าตนได้รับแจ้งจากกรมป่าไม้ว่าได้ไปชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นรอบที่ 2 ต้องการขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อคณะกรรมการฯ ตอบกลับมาเมื่อใด เราพร้อมดำเนินการได้ทันที ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้ว่ากันไปตามกระบวนการอยู่แล้ว ไม่มีการละเว้นหรือปฏิบัติเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้ล่าช้า ตอนนี้ยังยืนอยู่และยันอยู่ด้วย