เชียงราย - หน.อุทยานฯ ยันแอบอ้างชัวร์ แนะผู้เสียหายฟ้อง พบหลักฐานชัดสาวอ้างเป็น จนท.เรียกพ่อค้าแม่ขายกล่อมเก็บค่าต๋งล่วงหน้ารายละ 3 หมื่นแลกสิทธิ์เปิดแผงค้า “ถ้ำหลวง” ขณะที่เดือนก่อนมีแจ้งจับคนรีดหัวคิวฝากงานมาแล้ว
หลังจากมีผู้เสียหายร้องเรียน-แจ้งความว่ามีคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เรียกรับเงิน 7 หมื่นกว่าบาท/ราย แลกฝากบรรจุเข้าทำงานในอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) อ.แม่สาย จ.เชียงราย กระทั่งมีคำสั่งย้ายพนักงานราชการอุทยานฯ พ้นพื้นที่ พร้อมตั้งกรรมการสอบวินัย เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว
ล่าสุดปรากฏคลิปวิดีโอบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งมีพฤติกรรมเรียกรับเงินอย่างชัดเจนอีก ซึ่งในคลิปดังกล่าวพบหญิงสาวคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดไปรเวต พร้อมด้วยชายอีก 1 คน (ไม่ปรากฏในคลิป) นั่งพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านค้ากลุ่มหนึ่งที่เคยค้าขายในบริเวณอุทยานฯ ก่อนที่จะมีการปิดพื้นที่ตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19
ชมคลิป https://bit.ly/2UsmUDm
ลักษณะเป็นการหว่านล้อม-ยื่นข้อเสนอให้ผู้ประกอบการว่าเลือกมาพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าเพราะต้องการเอาคนเก่าแก่ที่เคยค้าขายรู้จักกันมาก่อน ดังนั้นหากรายใดยังสามารถจ่ายได้ก็จ่ายล่วงหน้าเอาไว้ก่อน 30,000 บาทเพื่อสร้างความมั่นใจ ขณะที่ฝ่ายชายที่ไปเจรจาด้วยก็พยายามอธิบายว่าเลือกคนรู้จักกันมาค้าขายต่อ จะทำให้ไม่เกิดปัญหาการแย่งพื้นที่หรือทะเลาะกับคนที่อยากจะเข้าไปค้าขายในอนาคตด้วย
หญิงที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ยังแจ้งด้วยว่าหลังจากรับเงินก็จะได้นำรายชื่อไปมอบแก่ “นาย” จากนั้นตนก็จะเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อนำหนังสือร้านค้าสวัสดิการที่มีการลงนามแล้วกลับมาให้ผู้ประกอบการได้เซ็นชื่อรับสิทธิ์ รวมทั้งอ้างว่าอุทยานฯ จะได้รับการประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเต็มตัวภายในเวลา 240 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป
โดยขณะนี้กำลังมีการพัฒนาพื้นที่ภายในอุทยานฯ รองรับ ทั้งการสร้างถ้ำจำลอง ทางเดินเชื่อมจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เพิ่มจำนวนรถรางเข้าออก ฯลฯ ในอนาคตยังจะมีการตั้งเป็นมูลนิธิ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น
ขณะที่ชายคนที่ไปด้วยกล่าวเสริมว่า เมื่อเลือกคนที่ไว้วางใจมากที่สุดแบบนี้แล้วก็ขอให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับและรู้กันเฉพาะวงในเท่านั้น รวมทั้งไม่ต้องกังวลว่าจะค้าขายไม่ได้กำไร เพราะเมื่อพัฒนาและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้แล้วก็จะสร้างรายได้ให้อย่างมหาศาลแน่นอน
นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย กล่าวว่า ขบวนการหลอกเรียกรับเงินแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็เคยมีประกาศเตือน และต่อมาก็มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ล่าสุดอธิบดีกรมอทุยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ให้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ทางอธิบดีก็ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยด้วยแล้ว คาดว่าจะทราบผลในเร็ววันนี้
ด้านนายกวี ประสมพบ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) กล่าวว่า การยกฐานะอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงฯ เป็นไปตามกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย คือมีการรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติฯ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2562 และตามระเบียบจะดำเนินการต่อไปอีก 240 วัน หรือถึงปลายเดือน ก.ค. 2563 นี้กระบวนการจึงจะแล้วเสร็จ จากนั้นก็จะมีมติ ครม.อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
แต่แม้ว่าจะยกฐานะเป็นอุทยานแห่งชาติอย่างเต็มตัวแล้วก็ยังไม่มีแนวทางให้จัดตั้งร้านค้าหรือแบ่งล็อกขายสินค้าภายในเขตอุทยานฯ ดังนั้น การที่มีข่าวลือในลักษณะอื่นใดจึงเป็นเรื่องการแอบอ้างและไม่เป็นความจริง จึงขอให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังมาอย่าได้หลงเชื่อ หากมีข้อสงสัยให้สอบถามได้ที่ตนโดยตรง หรือหากเข้าข่ายผิดกฎหมายก็ให้แจ้งความดำเนินคดีต่อผู้แอบอ้างได้เลย