เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(6 มิ.ย)เกิดประท้วงใหญ่คนจำนวนมากรวมตัวประท้วงต้านการใช้ความรุนแรงของตำรวจและการเหยียดหยามเชื้อชาติที่นำมาสู่การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ท่ามกลางสภาอากาศที่ไม่ดีกลางจตุรัสรัฐสภาอังกฤษ ลอนดอนส่งตำรวจม้าเข้าควบคุมสถานการณ์
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(6 มิ.ย)ว่า คนจำนวนมากมาร่วมตัวที่จัตุรัสรัฐสภาอังกฤษในวันเสาร์(6) ที่ไม่ห่างจากที่พักของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน เพื่อออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับจอร์จ ฟลอยด์ แอฟริกันอเมริกันชาวมินนีอาโปลิสที่เสียชีวิตหลังตำรวจใช้เข่ากดคอจนเสียชีวิต
การประท้วงเกิดขึ้นทั้งในเมืองแมนเชสเตอร์ คาร์ดิฟฟ์ เลสเตอร์ (leicester) และเชฟฟิลด์ (Sheffield)
ที่กรุงลอนดอนพบกลุ่มผู้ประท้วงร่วมคุกเข่าพร้อมนิ่งเงียบเป็นเวลา 1 นาทีไว้อาลัยก่อนประท้วงว่า “ไม่เกิดยุติธรรม จะไม่มีความสันติ” และ “ชีวิตคนผิวดำสำคัญ”
อังกฤษพบว่าการประท้วงส่วนใหญ่ของทั้งวันเป็นไปด้วยความสงบ แต่เกิดปัญหาขึ้นในช่วงค่ำบริเวณถนนดาวนิงใกล้ทำเนียบรัฐบาลอังกฤษ
นักข่าวบีบีซีรายงานว่า หลังการประท้วงใหญ่นั้นจบสิ้นแล้วแต่มีกลุ่มผู้ประท้วงเล็กๆกลับการโยนระเบิดและประทัดเข้าใส่แผงตำรวจที่มีการส่งตำรวจม้าเข้าควบคุมสถานการณ์
ซึ่งในคลิปที่รายงานโดย RT สื่อรัสเซีย พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงผู้ควบคุมม้าได้หล่นลงมาและได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่ไบาดเจ็บไม่มากนัก และในอีกคลิปพบว่ามีมีตำรวจม้าตัวหนึ่งหลุดออกและวิ่งไปรอบๆสร้างความโกลาหลให้กับผู้ประท้วง สื่อ RT ชี้ว่า ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นม้าของเจ้าหน้าที่หญิงหรือไม่ แต่ตำรวจอังกฤษแถลงว่า ม้าตัวที่หลุดนั้นกลับมาได้อย่างปลอดภัย
ผู้ประท้วงได้โยนทั้งขวด ท่อนไม้ และประทัดเข้าหลังตำรวจม้ากรุงลอนดอนพยายามควบคุมฝูงชน
มีผู้เห็นเหตุการณ์ได้โพสต์คลิปและกล่าวว่า “ในเวลานี้พวกเขาต่างโยนขวดน้ำเข้าใส่เจ้าหน้าที่และม้า ซึ่ง 2 นาทีก่อนหน้าพวกเราได้ตบมือต้อนรับเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉิน นี่ไม่ใช่เกี่ยวกับการเหยียดสีผิวหรือความโหดร้ายของตำรวจในอเมริกา ไม่มีการใช้ข้ออ้างในการลงมือทำร้าย การทำลายข้าวของ หรือจลาจล คนพวกนี้ต้องเข้าคุก”
ในเหตุการณ์นี้มีผู้ประท้วงถูกจับ 14 คน และตำรวอังกฤษ 10 นายได้รับบาดเจ็บ
นายกเทศมนตรีกรุงอังกฤษ ซาดิค ข่าน กล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “ผมขออยู่เคียงข้างคุณและผมของแบ่งปันความโกรธเกรี้ยวและความเจ็บปวดของคุณ” พร้อมกล่าวไปถึงชนกลุ่มน้อยเล็กๆที่กลายเป็นความรุนแรงทำให้สิ่งสำคัญสูญเสียความหมายไป
ผู้ประท้วงจำนวนมากในกรุงลอนดอนสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการประท้วงขณะที่มีอีกหลายคนสวมถุงมือออกมาประท้วงทั้งๆที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษออกมาเตือนห้ามฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19
ด้าน โอ’นีลล์ รอว์ลี ( O'Neall Rawle) ครูวัย 27 ปีจากเมืองเลสเตอร์ที่มาร่วมประท้วงกล่าวว่า เขาออกมาประท้วงเพราะว่าเขาหมดความอดทนในการที่ถูกปฎิบัติเป็นเหมือนพลเมืองชั้น 2 และหวังว่าสิ่งนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
บีบีซีรายงานว่าที่เมืองแมนเชสเตอร์มีผู้เข้าร่วมการประท้วงราว 15,000 คน
การประท้วงใหญ่เพื่อเรียกร้องให้ฟลอยด์ยังเกิดขึ้นทั้งในออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และญี่ปุ่น