xs
xsm
sm
md
lg

สลด!! พบลูกช้างป่าเพศผู้ล้มกลางบ่อน้ำกุยบุรี ผ่าซากพบกระสุนลูกซอง 4 เม็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ออกลาดตระเวนขากลับพบลูกช้างป่ากุยบุรี ล้มกลางบ่อน้ำ ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ สัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ พบหัวกระสุน 4 เม็ด แต่น่าจะล้มจากสาเหตุน้ำท่วมปอด จากข้อมูลพบว่าไม่ถึง 1 เดือน ช้างป่ากุยบุรีล้มแล้ว 3 ตัว

วันนี้ (12 มิ.ย.) นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ขณะเดินกลับจากการลาดตระเวน มาพบซากลูกช้างป่า อายุประมาณ 6-7 ปี เพศผู้ไม่มีงา สภาพขึ้นอืด ล้มอยู่กลางบ่อน้ำ บ่อ 5 อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ม.7 บ้านรวมไทย ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้รายงานให้ นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้ทราบ เพื่อรายงานให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ทราบต่อไป

ต่อมา นายอานนท์ พร้อมเพรียง นายอำเภอกุยบุรี นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.บ้านยางชุม ร.ต.อ.สมบัติ สำเรียนรัมย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านยางชุม และนายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา หัวหน้าโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมสัตวแพทย์หญิงภาวิณี แก้วแกม สัตวแพทย์ศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ตลอดจนสัตวบาล โดยเจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮตักซากลูกช้างป่าที่อยู่กลางบ่อน้ำ กลับเข้ามาบนฝั่งทำการผ่าพิสูจน์ และตำรวจพิสูจน์หลักฐานประจวบคีรีขันธ์ เข้าสแกนหาวัตถุโลหะภายในตัวลูกช้าง

ทีมสัตวแพทย์ได้ผ่าพิสูจน์ซากลูกช้างป่า จนพบกระสุนลูกซอง ขนาด 9 จำนวน 4 เม็ดฝังอยู่ในตัวลูกช้าง จากลักษณะบาดแผลคาดว่าจะถูกยิงมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน เนื่องจากสภาพบาดแผลเก่า มีการสร้างเนื้อเยื่อมาปิดปากแผลแล้วบางส่วน

ซึ่งเมื่อผ่าแล้ว พบจุดที่ 1 ที่บริเวณสะโพกหลังขวา จุดที่ 2 บริเวณสันหลังห่างโคนหาง 40 ซม. จุดที่ 3 บริเวณท้องซีกขวา ซึ่งทั้ง 3 จุดกระสุนอยู่ที่บริเวณชั้นผิวหนัง และจุดที่ 4 ที่บริเวณหลังขาหน้าขวา กระสุนทะลุกระดูกซี่โครง ทางสัตวแพทย์เห็นว่าจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่น่าจะทำให้ลูกช้างป่าบาดเจ็บและมีอาการป่วย ก่อนจะลงบ่อน้ำเพื่อหาน้ำกินเพื่อระบายความร้อนในร่างกายตามสัญชาตญาณสัตว์ป่าและเกิดจมน้ำ

อีกทั้งสัตวแพทย์ตรวจพบว่า มีภาวะน้ำท่วมปอดด้วย ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุการตายของลูกช้างป่าตัวดังกล่าว ส่วนอวัยวะภายในไม่สามารถเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อส่งตรวจได้ เนื่องจากเน่าเสียทั้งหมด จากนั้นเจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จึงได้ใช้รถแบ็กโฮขุดหลุมนำซากลูกช้างฝังกลบโดยโรยปูนขาวเพื่อฆ่าเชื้อตามหลักวิชาการด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ไชยกร ศรีหล้าเดโช ผกก.สภ.บ้านยางชุม กล่าวว่า ได้รายงานเรื่องนี้ให้ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ทราบแล้ว ส่วนแนวทางการสอบสวนนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ขอข้อมูลการครอบครองอาวุธปืนลูกซองของพื้นที่ ม.7 บ้านรวมไทย และพื้นที่ใกล้เคียงของอำเภอกุยบุรี มาตรวจสอบทั้งหมด และให้รวบรวมข้อมูลประวัติการถูกจับกุมด้วยอาวุธปืนย้อนหลัง 3 ปี ในพื้นที่มาตรวจสอบ และให้ ตร.สภ.บ้านยางชุม ลงพื้นที่หาข่าวว่ามีไร่หรือสวนใครที่ใช้อาวุธปืนลูกชองในการเฝ้าไร่บ้าง พร้อมให้ตรวจดูจุดที่ทำห้างเฝ้าไร่ เนื่องจากลักษณะบาดแผลที่พบบนตัวลูกช้างป่าลักษณะเป็นมุงสูง จึงคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะนั่งห้างขณะก่อเหตุยิงลูกช้างป่าด้วย โดยจะเชิญเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี สัตวแพทย์ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป

ขณะเดียวกัน นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนัน ตำบลหาดขาม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่พบลูกช้างล้ม อีกทั้งจากการผ่าพิสูจน์พบว่าถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 9 แม้ว่าจะไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ล้มทันที แต่การถูกยิงทำให้เจ็บป่วยและล้มได้ในที่สุด เนื่องจากในพื้นที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยว ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นได้

ที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภอกุยบุรี ไม่พบคดียิงช้างป่านานแล้ว จากนี้คงต้องปรึกษากับนายอำเภอกุยบุรี เพื่อวางมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ซึ่งคงต้องลงพื้นที่สำรวจเป็นข้อมูลและมีข้อห้าม หรือบทลงโทษที่ชัดเจนต่อไป รวมทั้งเรื่องของการใช้รั้วไฟฟ้ากั้นช้างป่าด้วย โดยทางอำเภอกุยบุรีได้มีการประชุมวางมาตรการป้องกันไปแล้วก่อนหน้านี้ หลังจากพบว่ามีบทเรียนจากเหตุช้างป่ากุยบุรี ล้มที่อำเภอปราณบุรี จากการถูกไฟฟ้าช็อต

ต่อมา นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้มอบหมายให้นายจารุวัตร นุชศิริ หน.ฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากร อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม เพื่อให้สืบหาบุคคลที่ลงมือใช้อาวุธปืนลูกซองยิงลูกช้างมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวพบว่า ในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน พบช้างป่าล้มแล้ว 3 ตัว โดยตัวแรก พบเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ที่บ้านวังไทร ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นลูกช้างป่า อายุ 5-7 ปี เพศผู้ งายาว สภาพป่วยผอมโซ ตรวจพบกระสุนลูกซอง ขนาด 9 จำนวน 2 เม็ด ทีมสัตวแพทย์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พยายามรักษาอาการป่วยได้เพียง 3 วัน กระทั่งล้มลงเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ตัวที่ 2 เป็นช้างป่าขนาดใหญ่ พบซากที่บ้านท่ากระทุ่น ม.5 ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกกระแสไฟฟ้าจากรั้วกั้นสวนมะม่วงช็อตล้ม ส่วนตัวที่ 3 ตัวล่าสุดวันนี้ (12 มิ.ย.)เป็นลูกช้างป่า อายุ 6-7 ปี เพศผู้ไม่มีงา มีร่องรอยกระสุนปืน และผ่าพิสูจน์พบกระสุนลูกซองขนาด 9 จำนวน 4 เม็ด และสัตวแพทย์ระบุสาเหตุน้ำท่วมปอด








กำลังโหลดความคิดเห็น