เชียงราย - ตำรวจนำพยานชี้จุดแก๊งอุ้มข้ามชาติ..ลักพาตัวพันจ่าอากาศ-อดีตปลัดฯ พัวพันคดียาเสพติด พร้อมเมียชาวลาว จากเวียงจันทน์ข้ามแดนภูชี้ดาว-เวียงแก่น ติดภูชี้ฟ้า ก่อนโผล่แม่สาย
วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีลักพาตัวพันจ่าอากาศฯ อดีตปลัดฯ สุวัฒน์ พันธุ์แตง อายุ 45 ปี ชาว จ.สระแก้ว นางน้ำทิพย์ ปะวันเนา อายุ 30 ปี ภรรยาชาว สปป.ลาว มาจากเวียงจันทน์ และนายวชิรวงศกร โตแสง อายุ 43 ปี ชาว จ.ระยอง ไปไว้ที่บ้านพักบ้านสันนา หมู่ 2 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-พม่า
ต่อมาตำรวจ สภ.เกาะช้างได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ด.ต.วิทยา คำปัญญา, ด.ต.กันดิศ จุมปู ตำรวจสังกัด สภ.แม่สาย ข้อหา "หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, เรียกค่าไถ่" และมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่ตำรวจ บก.ปส.2 บช.ปส.ได้ควบคุมตัวพันจ่าอากาศฯ สุวัฒน์ และนายวชิรวงศกร ไปดำเนินคดีในข้อหา "สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน" หลังจากหนีออกจากที่คุมขังได้เพียงวันเดียวแล้วนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลหลักฐาน-สอบพยานต่างๆ อย่างเข้มข้น รวมทั้งกดดันให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามามอบตัว เนื่องจากสืบทราบว่ากลุ่มคนที่ร่วมก่อเหตุในประเทศไทยมีไม่น้อยกว่า 7-8 คน และใช้ยานพาหนะหลายคัน และมีรายงานว่าผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจอย่างน้อย 1 คนได้มีการติดต่อจะขอเข้ามอบตัวสู้คดี
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.มานพ เสนากุล, พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางน้ำทิพย์ไปชี้จุด-เส้นทางที่ถูกลักพาตัวอย่างละเอียดตั้งแต่ชายแดนไทย-สปป.ลาว จนถึงที่พักใน อ.แม่สาย ตามคำให้การที่ระบุว่าช่วงแรกที่ถูกพาตัวจากแขวงเวียงจันทน์มาถึงชายแดนไทยเป็นการเดินทางผ่านภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง ก่อนพาเดินเท้าไปตามทางเดินที่มีราวเหล็กอยู่ จากนั้นถูกพาไปพักในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ก่อนนำถุงดำคลุมศีรษะไม่ให้เห็นเส้นทางจนมาปรากฏตัวที่บ้านพักที่ ต.เกาะช้าง ชายแดนไทย-พม่าดังกล่าว
จากคำให้การดังกล่าวสอดคล้องกับพื้นที่บริเวณภูชี้ดาว บ้านร่มโพธิ์เงิน ต.ปอ อ.เวียงแก่น ใกล้กับภูชี้ฟ้า ขณะที่ฝั่งตรงข้ามคือบ้านเชียงตอง-บ้านกวนตึน แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว มีช่องทางเข้าออกประเทศที่คนท้องถิ่นใช้เป็นประจำและฝั่งไทยมีรีสอร์ตอยู่ 2-3 แห่ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้พานางน้ำทิพย์ไปยังสถานที่หลายจุด ทั้งบริเวณผาตั้ง ลานโรงเรียนแห่งหนึ่ง ฯลฯ เพื่อให้ชี้จุดว่าเกี่ยวข้องกับการถูกลักพาตัวมาหรือไม่ด้วย
ทั้งนี้ นางน้ำทิพย์ได้ให้การเป็นประโยชน์เพื่อการคลี่คลายคดีหลายเรื่อง เช่น สถานที่พัก บุคคลที่พบเห็น วัสดุอุปกรณ์ ฯลฯ เพราะสามารถฟัง-พูด และอ่านภาษาไทยได้ดี ถือเป็นพยานปากสำคัญในคดีลักพาตัวข้ามชาติดังกล่าว
สำหรับคดีลักพาตัวข้ามชาตินี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อพันจ่าอากาศฯ สุวัฒน์ และภรรยา ถูกกลุ่มคนประมาณ 7-10 คนลักพาตัวมาจากเมืองไซทานี แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว จากนั้นพาเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเวลา 1 วัน และเดินเท้าผ่านป่าเขาอีกประมาณ 9 ชั่วโมงจนถึงชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน ต.ปอ อ.เวียงแก่น ติดกับภูชี้ฟ้า อ.เทิง ก่อนถูกชายฉกรรจ์อีกประมาณ 8 คนพาขึ้นรถยนต์ไปอยู่ที่ อ.แม่สาย
โดยมีการสันนิษฐานเบื้องต้นกันว่าเป็นการลักพาตัวเพื่อรีดเงินค่าเสียหายจากการขนของบางอย่างมูลค่าไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ผ่านไทยไปประเทศที่สาม ซึ่งคาดว่าเป็นญี่ปุ่นหรือออสเตรเลีย ไม่ได้ตามสัญญา