เชียงราย - อดีตพันจ่าทหารอากาศ ถูกอุ้มมาราธอนจากเวียงจันทน์ พร้อมภรรยาชาวลาว พานั่งรถ-เดินเท้าผ่านป่าเป็นวันๆ ขังในบ้านชายแดนแม่สาย ก่อนหนีออกมาขอ ตร.ช่วยได้คนเดียว แต่เมียยังโดนจับเป็นตัวประกันอยู่
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ พ.ต.ท.พีระภัทร อุ่นนันกาศ สว.(สอบสวน) สภ.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ปฏิบัติหน้าที่อยู่เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ได้มีชายคนหนึ่งทราบชื่อต่อมาคือ อดีตพันจ่าอากาศโท หรือนายสุวัฒน์ พันธุ์แตง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 129/1 หมู่ 1 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว นุ่งเสื้อยืดสีดำลายและกางเกงขาสั้นสีเทาเข้ามาขอความช่วยเหลือด้วยท่าทีตกใจและอิดโรย
นายสุวัฒน์แจ้งต่อเจ้าหน้าที่เบื้องต้นว่า ถูกกลุ่มคนลักพาตัวมาจาก สปป.ลาว และพานั่งรถ-เดินเท้าไกลก่อนที่จะหลบหนีออกจากที่คุมขังแล้วทราบว่ามาปรากฏตัวอยู่ที่ชายแดนไทย-พม่า ต.เกาะช้าง ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่สอบปากคำอย่างละเอียดทราบว่า ก่อนหน้านี้อดีตพันจ่าอากาศโท หรือนายสุวัฒน์ ได้อาศัยอยู่กับภรรยาชื่อนางน้ำทิพ ปะวันเนา ที่บ้านเกิ๋นเหนือ เมืองทุละคม แขวงเวียงจันทน์ เมืองหลวงของ สปป.ลาว กระทั่ง 27 พ.ค.ที่ผ่านมาขณะออกไปหาซื้อเป็ดและไก่ที่ตลาดเมืองไซทานี นครเวียงจันทน์ ได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 7-10 คน ในจำนวนนี้มีอยู่ 2 คนแต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่ถืออาวุธปืนยาวเข้าจับกุม
จากนั้นทั้งคู่ถูกนำตัวขึ้นรถยนต์ไปโดยไม่ทราบทิศทางเป็นเวลา 1 วัน และในวันที่ 28 พ.ค.ก็ได้พาลงจากรถและบังคับให้เดินเท้าผ่านป่าอีก 9 ชั่วโมง ก่อนมีคนนำรถยนต์มารับแล้วนำไปส่งที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง จำได้ว่าอยู่บริวณชายแดนไทย-สปป.ลาว ใกล้ภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย ก่อนคนร้ายอีกกลุ่มมีประมาณ 8 คนจะนำรถยนต์มารับแล้วใช้ผ้าปิดตาไม่ให้เห็นเส้นทางแล้วพาไปพักที่ห้องพักแห่งหนึ่งห้องละ 1 คน เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน โดยสวมใส่กุญแจมือไว้ด้วย
กระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 1 มิ.ย. นายสุวัฒน์ก็ใช้ลวดไขกุญแจมือออกได้ ก่อนหลบออกมาทางช่องลมของห้องน้ำบ้านพักที่เป็นคอนกรีตชั้นเดียว แล้ววิ่งหลบหนีผ่านทุ่งนาของชาวบ้านจนพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะช้าง แล้วได้เข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้พาผู้แจ้งไปดูที่บ้านพักตามที่ได้รับแจ้ง แต่ไม่พบบุคคลต้องสงสัย คาดว่าพอเห็นนายสุวัฒน์หลบหนีก็ไหวตัวพากันพาภรรยานายสุวัฒน์หลบหนีไปก่อน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนถึงสาเหตุของการลักพาตัว และขยายผลติดตามหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องพร้อมช่วยเหลือนางน้ำทิพ ตามข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อถูกลักพาตัวพร้อมภรรยาชาวลาว แต่หลบหนีมาขอความช่วยเหลือได้เพียงคนเดียวนั้น อดีตเคยรับราชการตำแหน่งระดับปลัดในพื้นที่ชายแดนของไทย อาจเป็นเพราะเข้าไปมีส่วนพัวพันการส่งสินค้ามูลค่านับร้อยล้านเข้าไทยเพื่อผ่านไปยังประเทศที่ 3 ซึ่งน่าจะเป็นญี่ปุ่นและออสเตรเลียไม่ได้ตามที่รับปาก