เชียงราย - คืบหน้าคดีอดีตพันจ่าอากาศโดนอุ้มพร้อมเมียจากเวียงจันทน์โผล่เชียงราย.. ล่าสุดเจอหมายจับเอี่ยวยาเสพติด พร้อมพวกอีก 1 พบเคยเป็นปลัดพื้นที่ชายแดนตะวันออก ขณะที่ข่าวสะพัดถูกรีดเงินชดใช้หลายร้อยล้านฐานส่งของไปประเทศที่ 3 ไม่ได้ตามสัญญา
ความคืบหน้ากรณีพันจ่าอากาศโท หรือนายสุวัฒน์ พันธุ์แตง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 129/1 หมู่ 1 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ซึ่งเคยเป็นปลัดในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออก เข้าขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าถูกคนร้ายจับตัวพร้อมภรรยา คือ นางน้ำทิพย์ ปะวันเนา ชาว สปป.ลาว มาจากเมืองไซทานี แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อวันที่ 27 พ.ค.แล้วพาขึ้นรถ-เดินเท้าจนถึงภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว ก่อนพาไปคุมขังในบ้านพักคอนกรีตชั้นเดียวพื้นที่หมู่บ้านสันนา หมู่ 2 ต.เกาะช้าง กระทั่งหลบหนีออกมาแจ้งตำรวจได้นั้น
ปรากฏว่าต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีผู้พบนางน้ำทิพย์ ภรรยานายสุวัฒน์ เดินอยู่บริเวณร่องน้ำทางเข้าหมู่บ้านสันทรายนาปง หมู่ 8 ต.โป่งผา ห่างจากบ้านที่ถูกคุมขังหลายกิโลเมตรจึงให้การช่วยเหลือ รวมทั้งได้ตรวจพบชายอีก 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือนายวชิรวงศกร โตแสง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ 4 ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง คนรู้จักกับอดีตพันจ่าฯ หรือนายสุวัฒน์ จึงได้นำตัวทั้งหมดไปยัง สภ.เกาะช้าง เพื่อสอบปากคำ เบื้องต้นทราบว่าทั้งนางน้ำทิพย์ และนายวชิรวงศกรต่างลักพาตัวมาเช่นกัน
แต่ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกข้อมูลก็พบว่า นายสุวัฒน์ และนายวชิรวงศกร ต่างถูกหมายจับศาลอาญาเกี่ยวกับคดียาเสพติด โดยกรณีของนายสุวัฒน์ถูก บก.ปส.2 ได้ขออนุมัติหมายจับที่ 251/2563 ลงวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ข้อหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ส่วนนายวชิรวงศกรถูกหมายจับที่ 250/2563 ในคดีเดียวกัน จึงได้มีการประสานตำรวจ ปส.2 บช.ปส.เข้าไปควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว
ส่วนกรณีการอุ้มลักพาตัวทั้ง 3 คนนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการแถลงความคืบหน้า แต่จากคำให้การของอดีตพันจ่าอากาศ หรือนายสุวัฒน์ ทราบว่ามีการกระทำเป็นขบวนการและใช้กำลังชายฉกรรจ์ 7-10 คน และมีคนแต่งกายเหมือนเจ้าหน้าที่ถืออาวุธปืนยาวอยู่ด้วย 2 คน ดักอุ้มขณะนายสุวัฒน์และภรรยาที่อาศัยอยู่ที่บ้านเกิ๋นเหนือ เมืองทุละคม แขวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ออกไปซื้อสินค้าที่ตลาดเมืองไซทานี นครเวียงจันทน์
จากนั้นทั้งคู่ถูกพาขึ้นรถยนต์ออกจากนครหลวงเวียงจันทน์ เดินทางเป็นเวลา 1 วัน ก่อนลงเดินเท้าผ่านป่าอีก 9 ชั่วโมงจนถึงชายแดนไทย-สปป.ลาว แล้วให้พักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใกล้ภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย จากนั้นได้คนอีกกลุ่มประมาณ 8 คน ได้นำรถยนต์มารับไปที่บ้านพักหลังเกิดเหตุที่บ้านสันนา หมู่ 2 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางเป็นรถยนต์กระบะได้ 1 คัน รวมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน และมีผู้ต้องสงสัยหลบหนีข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วอย่างน้อย 3 คน ขณะที่ น.ส.น้ำทิพย์ ให้การเพียงว่าหลังถูกอุ้มไปไว้ที่บ้านพักที่เกิดเหตุก็ถูกใช้ผ้าปิดตาแล้วพาขึ้นรถยนต์ไปปล่อยทิ้งไว้ โดยไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนกระทั่งมีคนไปพบแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่
ขณะที่ปมการอุ้มข้ามประเทศครั้งนี้ มีรายงานว่าอาจเกิดจากความขัดแย้งด้านธุรกิจบางอย่าง โดยมีการรับจะส่งสินค้าบางประเภทผ่านไทยไปยังประเทศที่ 3 คาดว่าจะเป็นญี่ปุ่นหรือออสเตรเลีย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงมีการเรียกเก็บเงินค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาทด้วยการว่าจ้างทีมอุ้มทั้งในและนอกประเทศซึ่งเกี่ยวพันกับคนหลายกลุ่ม กระทั่งนายสุวัฒน์อ้างว่าหลบหนีออกมาได้และคนอื่นๆ ก็ถูกปล่อยตัวออกมาดังกล่าว