สระบุรี - ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ไล่ล่าขบวนขนยาเสพติดข้ามภาค คนร้ายไหวตัวรถคุ้มกันแซงผ่าหมากรถตำรวจเปิดฉากยิงสนั่นบนท้องถนนสายสระบุรี-ลพบุรี สุดท้ายไม่รอดพบขนกัญชามาเต็มคันมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
กลางดึกวานนี้ (1 มิ.ย.) พ.ต.ท.ประภาส ตู้ภูมิ (สว.) พนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี รับแจ้งจาก พ.ต.อ.ศุภากร จันทราบุตร รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดภาค 1 ว่าเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจปะทะกับคนร้ายขบวนขนยาเสพติด แล้วรถคนร้ายเสียหลักตกถนนจมร่องน้ำข้างทาง ระหว่างหลัก กม.ที่ 114-115 ถนนพหลโยธิน (สระบุรี-ลพบุรี) หมู่ 2 ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี มีคนร้ายที่ทำหน้าที่ขับรถได้รับบาดเจ็บ 1 คน ส่วนพรรคพวกคนร้ายที่ทำหน้าที่ขับรถคุ้มกันหลบหนีไปได้ ขอให้มาสอบสวนด้วย
จึงรีบไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพดล กรสำราญ รอง ผบช.ภ.1 พิสูจน์หลักฐาน จ.สระบุรี อาสาสมัครมูลนิธิสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี พบรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 1 กญ 5778 สภาพพังยับเยินจมอยู่ในร่องน้ำครึ่งคัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือคนขับถูกนำส่ง รพ.สระบุรีก่อนแล้ว พบมีกระสอบขนาดเล็กภายนอกห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำกันน้ำ หลุดออกมาจากตัวรถ 2 ถุง และถุงกระดาษใส่เสื้อผ้าผู้ชายพร้อมของใช้ส่วนตัวอีก 1 ถุง เจ้าหน้าที่จึงได้ให้มูลนิธินำขึ้นมาจากน้ำ
หลังจากแกะออกดูพบภายในมีกัญชาอัดแท่งๆ ละ 1 กก. จำนวน 40 แท่ง จากนั้นจึงได้ประสานนำรถมายกรถของคนร้ายที่ตกถนนจมน้ำนำขึ้นมาบนบก พบถุงดำบรรจุยาเสพติดอัดแน่นเต็มคันรถ จึงยกไปที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ตรวจนับ รวมจำนวนทั้งสิ้น 15 ถุงดำ น้ำหนัก 600 กก. เบื้องต้นประเมินราคาจำหน่ายในประเทศที่จำหน่ายตามท้องตลาดราว กก.ละ 1 หมื่น ถึง 12,000 บาท มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท
พล.ต.ต.นพดล กรสำราญ รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า ยาเสพติดล็อตนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุม กัญชาหนัก 500 กก. จากแก๊งจำหน่ายยาเสพติดในกรุงเทพฯ เมื่อกลางเดือน พ.ค.2563 ที่ผ่านมา และสืบทราบมาว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติด (กัญชา) จากชายแดนด้าน อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เลาะริมโขงมาทาง จ.เลย-เพชรบูรณ์เข้า กทม. จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ศุภากร จันทาบุตร รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร ภาค 1 นำกำลังเฝ้าสะกดรอยติดตามเพื่อจับกุม
โดยพบรถคนร้ายผ่านมาทาง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี จึงนำกำลังขับรถติดตามมาห่างๆแต่ยังไม่ได้จังหวะเข้าจับกุม เมื่อเข้าเขต จ.สระบุรี จึงวิทยุแจ้งให้ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จัดกำลังตั้งด่านชั่วคราวโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งเครื่องแบบเพื่อสกัดรถคนร้ายเพื่อตรวจค้นจับกุม
เมื่อได้จังหวะใกล้ด่านเจ้าหน้าที่ที่ติดตามมาจึงเร่งเครื่องรถเข้าประกบส่งสัญญาณให้คนร้ายหยุดรถ โดยที่ชุดจับกุมไม่ทราบมาก่อนว่า คนร้ายจะมีชุดคุ้มกันมาด้วยเพราะตามทางสืบสวนไม่มีการแจ้งให้ทราบ ซึ่งรถคุ้มกันของคนร้าย จำนวน 2 คัน คันแรกเป็นรถยนต์เก๋งฮอนด้าซิตี้ และอีกคันเป็นรถกระบะมิตซูรุ่นสตราด้า ทั้ง 2 คันสภาพเก่า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ได้เร่งเครื่องแซงปาดหน้ารถเจ้าหน้าที่พร้อมใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่และพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเปิดทางให้รถขนยาเสพติดหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้และยิงไปถูกที่ล้อรถของคนร้ายเข้าที่ล้อด้านขวาแตก ทำให้รถคนร้ายเสียหลักตกถนนจมลงไปในคูน้ำ ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถคุ้มกันของคนร้ายเห็นพลาดท่าจึงได้พากันเร่งเครื่องขับหลบหนไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้น พล.ต.ต.นพดล ได้เดินทางไป สอบสวนคนขับรถขนยาเสพติดที่ได้รับบาดเจ็บ ที่ รพ.สระบุรี ทราบชื่อคือ นายสุทธินันท์ สุวรรณานุช อายุ 35 ปี อยู่เลขที่ 250/68 ถนนวัชรพล ต.ทาแร้ง เขตบางเขน กทม. ได้รับบาดเจ็บถูกพวกมาลัยรถกระแทกเข้าที่หน้าอก และฟกช้ำในที่อื่นๆบ้างเล็กน้อย ให้การว่าขับรถมาคนเดียวโดยไม่ซัดทอดถึงเพื่อนร่วมแก๊งแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งจะได้ติดตามสืบสวนสอบสวนจับกุมกลุ่มแก๊งที่หลบหนีไปได้มาดำเนินคดีต่อไป