ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดใหญ่ประชุมวิชาการ และนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 7 ชูนวัตกรรมการเรียนรู้สู่การพัฒนาสู่ชุมชน ด้วยการประชุมผ่านระบบออนไลน์ ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อ.เมืองขอนแก่น ดร.เอกอนันต์ สมบัติสกุลกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นประธานการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 7 เรื่อง “นวัตกรรมการเรียนรู้สู่การพัฒนาชุมชน” The 7th NEU National Conference 2020 (NEUNC 2020) “Learning Innovation for Community Development” ผ่านระบบออนไลน์ตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด
ดร.เอกอนันต์ สมบัติสกุลกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า การประชุมวิชาการและการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 7 ของมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งนี้เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้คณาจารย์ นักวิจัย นิสิต นักศึกษา ได้นำเสนอผลงานซึ่งได้ศึกษาค้นคว้าทางวิชาการ การทำวิจัย และนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการศึกษา เพื่อนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อวงการการศึกษาประเภทต่างๆ ถือได้ว่าเป็นการกระตุ้นความสนใจการศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับงานวิจัย ให้แก่ผู้สนใจงานวิจัยได้ขยายผลต่อไป
“การประชุมครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการประชุมและการนำเสนอผลงานวิจัยนั้น ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ มีคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิกำกับอย่างเข้มงวด ทุกผลงานวิจัยเป็นผลงานที่มีคุณภาพ ตรงกับความต้องการ และได้รับความสนใจจากประชาชน ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การใช้เทคโนโลยีแบบสมัยใหม่ ทั้งหมด” ดร.เอกอนันต์ กล่าวและว่า
อีกทั้งขณะนี้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดผลกระทบด้านต่างๆ ไปทั่วโลก ทำให้วิถีชีวิตต้องปรับเปลี่ยน ปรับตัวกันครั้งใหญ่ กระบวนการวิจัยที่มีคุณภาพที่ได้ถูกนำเสนอในวันนี้จึงมีความสำคัญต่อการเข้ามาแก้ปัญหา และหาทางออกจากปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน
อธิการบดีมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้กำหนดการประชุมออกเป็นกลุ่มย่อยรูปแบบออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชันซูม เพื่อนําเสนอผลงานวิจัย รวมจํานวน 120 ผลงาน แบ่งเป็น ด้านการศึกษา จํานวน 52 ผลงาน ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ จํานวน 6 ผลงาน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจํานวน 26 ผลงาน ด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จํานวน 15 ผลงาน ด้านบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ จํานวน 16 ผลงาน และด้านเกษตรกรรมและการประมง จํานวน 5 ผลงาน
อย่างไรก็ตาม ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะได้เห็นระบบการวิจัยแบบใหม่ แนวใหม่ที่มีลักษณะการทำงานแบบแนวราบ คือ ร่วมกันคิดกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับการวิจัยระบบ เพื่อจะได้ส่งเสริมให้มีพลวัตในการพัฒนาระบบการวิจัยได้อย่างต่อเนื่อง คิดว่าเราควรมาช่วยกันรวมพลังทำงาน ที่เห็นร่วมกันว่าสำคัญเร่งด่วน น่าจะเกิดผลดีต่อวงการศึกษาและช่วยกันพัฒนาประเทศให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สนองตอบนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศต่อไป