พิษณุโลก - เผยนาทีช่างไฟ สวท.พิษณุโลกคลั่ง ลั่นไกกระหน่ำยิงไม่ยั้ง เริ่มจากหัวหน้าช่างฯ ศพแรก 3 นัด เพื่อนช่างไฟฯ 5 นัด ขณะที่ ผอ.สวท.กระโดดหน้าต่างหนีแล้วยังไม่รอด โดนตามรัวยิงถึง 9 นัด ก่อนย้อนกลับยิงปากช่างอีกคน พร้อมไล่เปิดประตูห้องทั้งสถานีฯ ด้าน รปภ.เผยผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาท อาจเครียดเรื่องถูกย้ายจากบ้านพักหลังเดิม
ความคืบหน้ากรณี นายวิม สอนสุข นายช่างไฟฟ้าชำนาญการ สวท.พิษณุโลก ใช้อาวุธปืน 2 กระบอกไล่กระหน่ำยิงเพื่อนร่วมงานภายในสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก (สวท.พิษณุโลก) เลขที่ 137/1 ม.5 บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อ 11.00 น.เศษที่ผ่านมา (27 พ.ค.)
ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ 1. นายสานิตย์ บุตรมางกูล ผอ.สวท.พิษณุโลก เสียชีวิตอยู่บริเวณด้านนอกด้านหลังอาคาร 2. นายจิรวุฒิ สุเมธเทพานันท์ นายช่างไฟฟ้าอาวุโส เสียชีวิตอยู่บริเวณกลางห้องโถงของ สวท. 3. นายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ นายช่างอาวุโส เสียชีวิตอยู่ภายในห้องจัดรายการวิทยุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ นายปรุง จันทร์แดง ช่างเครื่องส่ง
พล.ต.ท.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ ผบช.ภ.6 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมีเหตุโกรธเคืองกับนายช่างใหญ่มาก่อนหน้านี้ จึงเตรียมการทั้งปืนและมีดมา เมื่อมาถึงก็ยิงเข้าใส่หัวหน้าช่างฯ และมีผู้เห็นเหตุการณ์ในขณะนั้นจึงตามไปยิง จนกระทั่ง ผอ.มาเห็นเข้าแล้วพยายามวิ่งหนี แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณด้านหลังอาคาร จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยของกลางทั้งปืนและมีดที่ใช้ก่อเหตุ
ทั้งนี้ จากการสอบถามพนักงาน สวท.พิษณุโลก ที่ล้วนอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนด้วยกัน ทราบว่าผู้ต้องหาดวงตาไม่ดีข้างหนึ่งเนื่องจากได้รับอุบัติเหตุตัดหญ้าภายในสถานี นิสัยเก็บกด ชอบเล่นปืน และเคยยิงปืนที่ทุ่งทะเลแก้ว (หลังบ้านในสถานี สวท.พิษณุโลก) มาหลายครั้ง
ส่วนก่อนเกิดเหตุทุกอย่างก็ปกติดี นายวิมได้ทักทายผู้ร่วมงานตอนเช้าตามปกติ เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อนายเด่น หัวหน้าช่างฯ เดินมาเพื่อเข้าห้องโถงทางเข้าสถานี แล้วถูกผู้ต้องหายิงเข้าที่ใบหน้าเป็นคนแรกพร้อมยิงซ้ำอีก รวม 3 นัด จากนั้นก็เปิดประตูห้องทุกห้อง ก่อนยิงช่างไฟฟ้า (นายแดง) อีก 5 นัด เสียชีวิตคาห้องเครื่อง
กระทั่ง ผอ.สวท.พิษณุโลกเข้ามาเห็นท่าไม่ดีจึงกระโดดหน้าต่างหนีออกไปด้านข้างๆ ผู้ต้องหาได้ตามไปยิง ผอ.ถึง 9 นัด จนเสียชีวิต จากนั้นเสียงปืนค่อยเงียบลง แต่แล้วผู้ต้องหาก็กลับไปยิงช่างไฟฟ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกคนหนึ่ง ซึ่งได้นำตัวส่งรักษาที่ รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวร ก่อนที่ผู้ต้องหาจะมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา
นางสาวนกแก้ว พัฒธิรา นักสื่อสารมวลชน (นักจัดรายการวิทยุ) ซึ่งกำลังทำงานอยู่ในห้อง บอกว่า พอได้ยินเสียงปืนก็หมอบลงใต้โต๊ะทันที จากนั้นก็มีเสียงเอะอะโวยวายจับใจความไม่ได้ จากนั้นได้ยินเสียงปืนหลังสถานีแล้วก็เงียบไป
ขณะที่นางสาววิจิตรา จันเข็ม นักสื่อสารมวลชน ชำนาญการ กล่าวว่า กำลังจัดการรายอยู่ในห้องส่งก็ได้ยินเสียงปืนนัดแรกๆ และอีกหลายนัดตามมา แต่ไม่ทราบว่ากี่นัด เสียงดังเยอะมาก จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูทุกห้อง คาดว่าเป็นผู้ต้องหาเป็นคนเปิดประตูมาดู แต่เชื่อว่าเขาไม่เห็นเราเพราะหมอบอยู่ใต้โต๊ะ
นายวัชระ ธีระสาโรช อายุ 59 ปี รปภ.เพื่อนร่วมงานของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตัวผู้ก่อเหตุมีอาการทางประสาท โดยทราบมาว่าได้รักษาตัวเองโดยกินยาระงับประสาทมา 3 ปีแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าระยะหลังขาดยาหรือเปล่า ส่วนมูลเหตุน่าจะเกิดจากความเครียดเรื่องบ้านพัก
เพราะก่อนหน้านี้ ผอ.สวท.ได้เรียกเจ้าหน้าที่ประชุมเรื่องบ้านพักข้าราชการใหม่ (ก่อสร้างใหม่) ส่วนตัวผู้ก่อเหตุอยู่บ้านพักหลังเก่า และเก็บของเก่าไว้รอขายเป็นจำนวนมาก ผอ.สวท.จึงสั่งให้ย้ายออกไปจากบ้านพักหลังเดิมเพราะต้องเตรียมรื้อถอน ตัวผู้ก่อเหตุจึงจำเป็นต้องย้ายมาอยู่ห้องข้างหลัง สวท. แต่ยังไม่สามารถขนของเก่าที่เก็บไว้จำนวนมากออกมาได้ น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งในความเครียดและกดดันจึงตัดสินใจยิงเพื่อนร่วมงานจนเสียชีวิตดังกล่าว นอกจากนี้ ผอ.คนเก่าเคยมีความคิดจะรื้อย้ายบ้านเก่า ผู้ต้องหาก็เคยใช้ปืนพกยิงหลังบ้านหลายครั้งเพราะโกรธ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรหรือห้ามปราม