ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ดร.อนุศาสตร์” ปธ.สหกรณ์ฯ ครูขอนแก่นโพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศต่อสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หลังถูก “ดร.วิศร์” ปธ.ชมรมสมาชิกสหกรณ์ฯ พร้อมพวกแจ้งความกล่าวหาฉ้อโกงโบนัส 20 ล้านบาท
จากกรณีวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น พร้อมคณะฯ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น แจ้งความดำเนินคดีต่อ ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด (สอ.ขก.) และคณะกรรมการฯ ในข้อหาฉ้อโกงสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด (สก.ขก.) และกระทำผิด พ.ร.บ.สหกรณ์ฯ 2542 โดยตั้งงบเพื่อแบ่งจ่ายโบนัสบอร์ดและพนักงานเกี่ยวข้อง 20 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนเวรฯ ได้รับการร้องทุกข์แล้ว
ล่าสุดได้มีความเคลื่อนไหวในประเด็นปัญหาดังกล่าว โดย ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด (สอ.ขก.) ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงต่อบรรดาสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ใจความว่า...วันนี้ผมขอพูดในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับตำแหน่งประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด และไม่เกี่ยวกับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผมในฐานะสมาชิกสหกรณ์คนหนึ่งและมาสวมบทบาทอันสำคัญ เพื่อมวลสมาชิกฯ ผมพยายามทุกวิธีทางเพื่อมิให้มีผลกระทบต่อการปันผลเฉลี่ยคืนของสมาชิก
เพื่อให้ได้ทรัพย์ของสหกรณ์กลับคืนมา เพื่อดูแลสมาชิกให้เป็นไปตามอุดมการณ์ของสหกรณ์ ผลงานที่ปรากฏชัดเจน ผมจะต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่พวกท่านกระทำกับผมตามข่าวนี้ให้ถึงที่สุด
รายงานเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้ ดร.อนุศาสตร์ได้ชี้แจงเหตุผลที่ไม่ได้กันหนี้เผื่อจะสูญไว้เต็มจำนวน โดยอ้างว่า เพราะไม่ต้องการให้กระทบเงินปันผลของบรรดาสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น โดยคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นได้มีการจัดทำแผนสำรองหนี้สงสัยจะสูญให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้พิจารณาไปแล้ว
โดยแบ่งเป็นปีที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท ปีที่ 2 จำนวน 50 ล้านบาท ปีที่ 3 จำนวน 80 ล้านบาท และปีที่ 4 จำนวน 100 ล้านบาทเศษ การทำแผนสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวนี้เพื่อใช้สำหรับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนคำสั่งเพิกถอนมติวาระที่ 3.2 การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2563 ของสำนักงานสหกรณ์ขอนแก่น ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด อยู่ในขั้นตอนระหว่างอุทธรณ์นายทะเบียนสหกรณ์ คาดว่าผลการอุทธรณ์ในเรื่องดังกล่าวจะออกมาภายในเดือนพฤษภาคม 2563
