xs
xsm
sm
md
lg

ฟังความอีกด้าน! ญาติไม่เชื่อหลานถูกพ่อขืนใจ-บังคับทำแท้ง ยันอยู่บ้านหลังเดียวกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำพูน - ทั้งแม่-หลานสาวไม่เชื่อพ่อชาวลำพูนขืนใจลูกในไส้-บังคับทำแท้ง ยันอยู่บ้านหลังเดียวกัน นอนห้องเกือบโล่ง มีอะไรได้ยินกันหมด คาดเด็กโกรธโดนดุเรื่องคบเพื่อนชาย โดนคนยุแหย่ร้องเรียนแจ้งจับพ่อ


กรณีพ่อแท้ๆ อายุ 38 ปี ชาว ต.อุโมงค์ อ.เมืองลำพูน ถูกดำเนินคดีฐานขืนใจลูกสาวในไส้ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ต่อเนื่องถึงอายุ 18 ปี กระทั่งท้อง ยังบังคับกินยาขับ ซื้อยาเหน็บ ฉีดแอลกอฮอล์จนแท้ง ซึ่งได้ติดต่อมอบตัวต่อชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน กลางดึกวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวให้การภาคเสธนั้น

ล่าสุดวันนี้ (21 พ.ค. 63) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังที่ถูกระบุเป็นที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านชั้นเดียวแบบก่อปูน ตั้งอยู่ในซอยมีบ้านของเพื่อนบ้านตั้งอยู่รอบบริเวณและเป็นสวนลำไยด้วย

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางขอ (นามสมมติ) อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้ต้องหา และเป็นย่าของนางสาวกอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย บอกว่า ตนเลี้ยงหลานสาวคนนี้มาตั้งแต่อายุได้ 3 ขวบ เนื่องจากตอนเด็กๆ ไปอยู่กับญาติฝ่ายแม่เขา (อดีตภรรยาผู้ต้องหา) แต่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน หลานได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะทุกวันนี้ผมยังไม่ขึ้นบางส่วน ก็เลี้ยงดูกันตามประสา ต่อมาลูกชาย (ผู้ต้องหา) ได้เลิกรากับแม่ของหลานสาวคนนี้ แต่หลานก็ไปๆ มาๆ เดี๋ยวก็ไปอยู่กับแม่ เดี๋ยวก็มาอยู่กับพ่อ แต่ยังเรียนอยู่ ม.6 ใกล้จะจบแล้ว

ส่วนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวตนเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะตนอยู่บ้านเดียวกัน หลานคนนี้จะกลัวแม่มากกว่าพ่อ ส่วนพ่อก็จะคุ้นเคยกับลูกดี หยอกล้อเล่นกันปกติ บางทีก็ด่าสั่งสอนบ้าง เพราะหลานสาวคนนี้ปกติเป็นเด็กขี้เกียจไม่ค่อยช่วยงานบ้าน และมักจะแอบคุยโทรศัพท์กับเพื่อนชายบ่อยครั้งจึงถูกพ่อดุด่าบ่อย เชื่อว่าน่าจะผูกใจเจ็บที่ถูกพ่อห้ามคบเพื่อนชายและถูกใครบางคนยุแหย่


ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ นางขอ (นามสมมติ) กล่าวว่า ไม่พบเหตุหรือเรื่องผิดปกติใดๆ บ้านหลังนี้อยู่กัน 4 คน คือ ตน กับลูกชาย (ผู้ต้องหา) กับหลานสาว (นางสาวกอ ผู้เสียหาย) ที่ไปแจ้งความเอาผิดพ่อ กับเด็กผู้หญิงวัย 3 ขวบอีก 1 คน ซึ่งเป็นลูกสาวกับภรรยาใหม่แต่เลิกรากันไปได้ 3 ปีเศษ คือหลังจากเลิกกับแม่ของนางสาวกอแล้วต่างคนต่างก็ไปมีครอบครัวใหม่ ลูกตนก็มีครอบครัวใหม่แต่ได้เลิกรากันไปแล้วเหมือนกัน

นางขอยังกล่าวต่อไปว่า ในบ้านหลังนี้มีห้องนอน 2 ห้อง ส่วนห้องที่ลูกชายกับหลานสาวนอนเป็นห้องยาวประมาณ 6 เมตร มีการนำตู้เสื้อผ้ามากั้นเป็นห้องนอนแบ่งกันนอนกับลูกเขา ก็อยู่ติดกับห้องตนเองนี่แหละ แค่ก่ออิฐกั้นระหว่างห้องตนเองกับห้องเขา แต่ด้านบนโล่งไม่ได้กั้นมิดชิด เวลาพูดคุยกันก็จะได้ยินเสียงเหมือนไม่ได้กั้นห้อง ตนจึงเชื่อว่าเรื่องที่หลานสาวไปแจ้งความน่าจะไม่ใช่เรื่องจริง อาจจะโดนใครบางคนยุแหย่ หรือไม่ก็โกรธที่พ่อดุด่าเรื่องคบเพื่อนชาย

“ขอยืนยันว่านิสัยของลูกชายฉันเป็นคนพูดจาตรงๆ พูดจาไม่ค่อยเพราะ และไม่ค่อยพูดสักเท่าไหร่ ซึ่งก็นิสัยเหมือนหลานสาวที่เวลามีอะไรไม่ค่อยคุยให้ฟัง ฉันไม่อยากพูดไปมากกว่านี้ เพราะอาจจะมีคนเข้าใจว่าฉันพูดเข้าข้างลูก และเรื่องนี้ก็เริ่มส่งผลกระทบต่อฉันแล้ว อย่างเมื่อเช้าที่ผ่านมาเพื่อนบ้านก็มาพูดจากระทบกระทั่งถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นกลายเป็นทะเลาะกับเพื่อนบ้านไปแล้ว” นางขอกล่าว


ด้านนางสาวน้อย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนางสาวกอ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เรื่องที่มีข่าวว่าน้าไปข่มขู่เจ้าหน้าที่ขณะไปตามหาลูกสาวนั้นไม่เป็นความจริง ตนไปเป็นเพื่อนน้าเพื่อไปตามหานางสาวกอ หลังจากทราบว่าหายตัวออกจากบ้านไปแล้วถูกนำตัวไปไว้ที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวันอาทิตย์เป็นวันหยุด ก็ไปสอบถามที่ป้อมยาม เขาก็แนะนำว่าวันนี้เป็นวันหยุดให้มาติดต่อในวันธรรมดา น้าก็บอกว่าวันธรรมดาต้องทำงาน เขาก็ให้เบอร์ติดต่อมาแล้วก็กลับไม่ได้มีการพูดจาข่มขู่แต่อย่างใด ส่วนหลังจากนั้นการโทรศัพท์ติดต่อสอบถามหาลูกสาวเป็นอย่างไรตนไม่ทราบเพราะเป็นการติดต่อทางโทรศัพท์ระหว่างน้ากับหน่วยงานนั้น

ทั้งนี้ กลุ่มญาติผู้ต้องหาต่างวิพากษ์วิจารณ์การนำเสนอข่าวของทีวีดิจิทัลบางสำนักที่เข้ามาสอบถามแล้วไม่ได้นำเสนอข้อมูลที่สัมภาษณ์ไปทั้งหมด มีการตัดต่อจนกลายเป็นข้อมูลที่บิดเบือนไปจากที่พูด นอกจากนี้ยังมีการจ่ายเงินเป็นค่าจ้างให้ผู้ให้ข้อมูล 1,000 บาท พร้อมกำชับไม่ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอื่นอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น