ลำพูน - ผู้ต้องหาขืนใจลูกในไส้-บังคับฉีดแอลกอฮอล์จนแท้ง ยังไม่ยอมคายเอาร่างเด็กทารกพันสายสิญนจ์ห่อผ้าทิ้งไหน
ความคืบหน้าคดีพ่อแท้ๆ อายุ 38 ปี ชาว ต.อุโมงค์ อ.เมืองลำพูน ขืนใจลูกสาวในไส้ ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ต่อเนื่องถึงอายุ 18 ปี กระทั่งท้อง ยังบังคับกินยาขับ ซื้อยาเหน็บ ฉีดแอลกอฮอล์จนแท้ง ซึ่งได้ติดต่อมอบตัวต่อชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน กลางดึกวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.พัฒนพงษ์ ขำแก้ว ผกก.สภ.เมืองลำพูน ระบุว่า การกระทำของผู้ต้องหาต่างกรรมต่างวาระ มีความผิดข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี กระทั่งอายุ 18 ปี จึงเข้ากฎหมายหลายตัว ซึ่งได้มีการแจ้งดำเนินคดีผู้ต้องหารายนี้ 4 ข้อหาหนัก คือ 1. กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี 2. กระทำชำเราเด็กอายุเกินกว่า 13 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปีและเด็กนั้นเป็นผู้สืบสันดาน 3. ทำให้เกิดการแท้งลูกโดยหญิงนั้นไม่ยินยอม ข้อหาที่ 4 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือเสรีภาพ ชื่อเสียง ต่อหญิงที่ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น
ขณะที่ ร.ต.อ.บวรรัชฏะ มายะลา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการสอบสวนผู้ต้องหาว่า เจ้าหน้าที่ได้พยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ช่วงวันที่ 25 มกราคม 2563 ซึ่งคาดว่าเป็นช่วงที่มีการทำแท้ง จากการบอกเล่าของนางสาวกอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ลูกสาวของผู้ต้องหา ได้เล่าให้พนักงานสอบสวนฟังว่า หลังใช้แอลกอฮอล์ฉีดจนเกิดการแท้งลูก พ่อ (ผู้ต้องหา) ได้นำร่างเด็กที่แท้งออกมาพันด้ายสายสิญจน์ห่อผ้าแล้วนำออกจากบ้านไปกลางดึก ไม่รู้ว่านำไปไว้ที่ไหน
อย่างไรก็ตาม การสอบสวนในประเด็นนี้ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จะสังเกตได้ว่าผู้ต้องหามีความชำนาญในการให้ปากคำและพูดกลับไปกลับมา ช่วงสอบปากคำยังร้องขอโน่นนั่นนี่ตลอด รวมถึงร้องขอไม่ให้สื่อเข้ามาร่วมรับฟังการสอบสวน อีกทั้งผู้ต้องหาคนนี้เป็นคนที่ชอบร้องเรียนข้าราชการในการสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และอ้างว่าลูกสาวติดสารเสพติดอีกด้วย
ทั้งนี้มีรายงานว่า ขณะนี้ผู้เสียหายยังมีอาการหวาดผวาต่อเหตุการณ์ต่างๆ สังเกตได้ว่าเวลาใครเปิดประตูเข้ามาเด็กจะมีอาการผวาตกใจกลัว ซึ่งน่าสงสารมาก
