อุทัยธานี - ครูโรงเรียนไกลปืนเที่ยงเมืองอุทัยจัดทีมลงพื้นที่เวียนสอนเด็กถึงบ้านทดแทนเรียนทางไกล บ้านไม่มีเน็ต ไร้กล่อง-จาน
หลังกระทรวงศึกษาธิการจัดการเรียนการสอนทางไกล DLTV ผ่านฟรีทีวี ทดแทนช่วงเวลาต้องเลื่อนเปิดภาคเรียนอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคโควิด-19 จากเดิมคือเดือนพฤษภาคม เป็นวันที่ 1 กรกฎาคม แต่ครอบครัวของเด็กชนบทส่วนใหญ่ยากจน โทรทัศน์รับสัญญาณเรียนทางไกลไม่ได้ บางพื้นที่บางครอบครัวไม่มีโทรศัพท์มือถือ-สัญญาณอินเทอร์เน็ต จึงทำให้เด็กกลุ่มนี้ไม่สามารถเรียนจากช่องทางดังกล่าวได้
ล่าสุดหลายโรงเรียนในเขตชนบทต่างๆ ได้จัดทีมครูลงพื้นที่จัดทำแบบฝึกหัด-เปิดบทเรียนสอนให้แก่เด็กนักเรียนที่อยู่ในความดูแลของตนเองถึงบ้าน ทดแทนการเรียนการสอนในระบบทางไกล เพื่อให้เด็กในกลุ่มดังกล่าวได้รับความรู้เท่าเทียมกัน ตลอดจนช่วยลดภาระให้แก่ผู้ปกครองไม่ต้องไปซื้อกล่องจานดาวเทียมหรือโทรศัพท์ใหม่ และลดความกังวลผู้ปกครองที่ห่วงว่าบุตรหลานของตนจะได้รับความรู้ไม่เท่าเทียมกับเด็กคนอื่นๆ อีกด้วย
เช่น โรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย สถานศึกษาในเขตพื้นที่ ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งนายกิตติคุณ เส็งจีน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย พร้อมทีมครูทุกกลุ่มสาระได้จัดทำแบบฝึกหัดลงพื้นที่จัดการเรียนการสอนให้แก่เด็กนักเรียนของตนถึงบ้านแทนการเรียนทางไกล
เพราะเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ครอบครัวยากจน และเป็นกลุ่มเด็กพิเศษ ไม่มีกล่องทีวีดิจิทัล โทรศัพท์ หรืออินเทอร์เน็ต ที่จะสามารถรับชมสื่อการเรียนการสอนดังกล่าวได้ ตลอดจนผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในระบบการเรียนการสอนมากนัก ทำให้ไม่สามารถช่วยสอนบุตรหลานของตนเองได้ เพื่อให้เด็กเหล่านี้ได้รับการสอนเท่าเทียมกับเด็กคนอื่นๆ โดยจะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าสอนเด็กจนครบทุกหลังคาเรือนในทุกๆ สัปดาห์จนกว่าจะเปิดเทอมใหม่
นายกิตติคุณ เส็งจีน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยไผ่ขุย กล่าวว่า ได้แบ่งทีมให้ครูประจำชั้นและประจำกลุ่มสาระจัดทำใบงานลงพื้นที่ถึงบ้านนักเรียนในความดูแลทุกคน หากบ้านไหนดูทีวีเรียนออนไลน์ได้ก็จะให้เรียนตามนั้นไปได้เลย แต่ถ้าทีวีที่บ้านเด็กคนไหนดูไม่ได้ โทรศัพท์ไม่มีเน็ต เปิดดูไม่ได้อีก ทางโรงเรียนก็จะมีใบงานเสริม เพื่อให้เด็กได้ทำการเรียนการสอนไปในระหว่างนี้ เพื่อให้ผู้ปกครองสบายใจได้ว่าเมื่อเปิดภาคเรียนแล้วลูกหลานจะเรียนทันเด็กคนอื่นๆ และครบตามหลักสูตรที่กำหนดแน่นอน
“ทีมครูจะหมุนเวียนกันลงไปจัดการเรียนการสอนให้แก่นักเรียนถึงตัวจนครบทุกบ้าน ทั้งในเขตบริการของโรงเรียน ซึ่งมีอยู่ 5 หมู่บ้าน และนอกเขตบริการอีก 2 หมู่บ้าน รวมเป็น 7 หมู่บ้าน” นายกิตติคุณกล่าว