ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สสจ.เชียงใหม่นำทีมชี้แจงกรณีผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 41 เป็นชายที่เดินทางมาจากภูเก็ตซึ่งไม่แสดงอาการและหายป่วยกลับบ้านแล้วหลังตรวจพบแค่ 4 วัน ยืนยันมาตรฐานการตรวจถูกต้องแม่นยำ สันนิษฐานรับเชื้อมาก่อนเข้าพื้นที่
วันนี้ (18 พ.ค. 63) ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายแพทย์ สุเมธ องค์วรรณดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ และนายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฉลอม แพทย์เวชศาสตร์ป้องกันด้านระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่
โดยระบุว่า ณ วันนี้ (18 พ.ค. 63) จังหวัดเชียงใหม่ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น 41 ราย เสียชีวิต 1 ราย และกลับบ้านทั้งหมดเแล้ว ซึ่งผู้ป่วยรายที่ 41 ที่เป็นชายอายุ 39 ปีที่เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตถึงเชียงใหม่เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 63 และถูกส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ในวันที่ 13 พ.ค. 63 ล่าสุดตรวจไม่พบเชื้อและกลับบ้านแล้วเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 63 โดยต้องกักตัวต่อตามเกณฑ์จนครบ 14 วัน
ทั้งนี้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ชี้แจงกรณีผู้ป่วยรายที่ 41 ระบุว่า เป็นผู้ป่วยรายแรกที่ตรวจพบ จากการทำงานเชิงรุก โดยได้รับการประสานข้อมูลว่าเดินทางเข้ามาจากจังหวัดภูเก็ตพร้อมครอบครัว มาถึงจังหวัดเชียงใหม่วันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ซึ่งตามมาตรการของจังหวัดเชียงใหม่นั้นผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ตทุกคนจะต้องมีการเก็บตัวอย่างนำไปตรวจหาเชื้อ โดยวันที่ 12 พ.ค. 63 ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสันกำแพงเข้าทำการเก็บตัวอย่างนำไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงใหม่และศูนย์ควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ ผลออกมาในวันที่ 13 พ.ค. 63 พบว่าติดเชื้อจึงรับตัวนำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์
ตลอดเวลาผู้ป่วยไม่ได้แสดงอาการเจ็บป่วยใดๆ แล้ววันที่ 14 พ.ค. 63 ได้มีการเก็บตัวอย่างตรวจอีกครั้งไม่พบเชื้อ แต่ยังคงต้องให้อยู่ที่โรงพยาบาลต่อเพื่อดูอาการ และต่อมาวันที่ 16 พ.ค. 63 มีการเก็บตัวอย่างตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่งและพบว่าไม่มีเชื้อ จึงให้ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านได้แต่ยังคงต้องกักตัวเฝ้าระวังตามเกณฑ์อีก 14 วัน ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความแม่นยำในการตรวจหาเชื้อในห้องปฏิบัติการของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ยืนยันว่ามีความถูกต้องแม่นยำ และได้มาตรฐานทางการแพทย์อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เหตุที่ตรวจพบเชื้อเพียงครั้งเดียวในครั้งแรกนั้นสันนิษฐานว่าเนื่องมาจากผู้ป่วยน่าจะได้รับเชื้อมาก่อนหน้านี้นานแล้ว และกำลังจะหาย โดยที่ระหว่างป่วยนั้นไม่มีการแสดงอาการใดๆ
ด้านนายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฉลอม แพทย์เวชศาสตร์ป้องกันด้านระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า กรณีผู้ป่วยรายที่ 41 นั้นนับเป็นรายแรกของจังหวัดเชียงใหม่ที่พบผู้ป่วยจากการตรวจหาเชื้อเชิงรุก ซึ่งการที่ตรวจพบเชื้อเพียงครั้งเดียว และในปริมาณน้อย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยรายนี้อาจจะรับเชื้อมาก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งแล้วโดยที่ไม่แสดงอาการป่วยใดๆ ตั้งแต่ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาสู่จังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่งมีการตรวจพบในช่วงที่ใกล้จะหายแล้ว ซึ่งจากการพูดคุยและสอบสวนโรค ผู้ป่วยรายนี้ยืนยันว่ามีการกักตัวอยู่บ้านตามมาตรการและการป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีด้วยการสวมหน้ากากเมื่อออกไปทำธุระจำเป็นข้างนอกบ้าน และไปเพียงไม่กี่ที่ รวมทั้งตัวผู้ป่วยไม่ได้ลงจากรถด้วย
ขณะที่จากการติดตามสืบหาตัวผู้ที่อาจจะมีโอกาสใกล้ชิดผู้ป่วยนอกบ้าน พบมีเพียงผู้ที่มีความเสี่ยงน้อย จำนวน 5 คนเท่านั้น และได้ทำการเก็บตัวอย่างเชื้อไปตรวจ ซึ่งผลออกมาว่าไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด จึงอยากให้ประชาชนผ่อนคลายความกังวลลง พร้อมระบุว่ากรณีของผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่ปรากฏว่ามีการนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วยไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ จนทำให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนจากการถูกข่มขู่คุกคามอย่างหนัก และเกิดความเครียด จนต้องมีการจัดเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตเพื่อผ่อนคลายความเครียด พร้อมทั้งอยากวิงวอนขอความร่วมมือจากประชาชนและสังคมให้เกิดความเข้าใจในเรื่องนี้มากขึ้นด้วย เพื่อเป็นการเคารพสิทธิส่วนบุคคลและเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้สะดวก