ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “อนุทิน” รัฐมนตรีสาธารณสุข ควงรัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ นำทีมลงพื้นที่เชียงใหม่ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ชื่นชมจนท.ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจทำสถานการณ์คลี่คลาย แต่ย้ำห้ามการ์ดตก
วันนี้ (13 พ.ค. 63) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานด้านการสาธารณสุขของโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากมีการประกาศเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งโรงพยาบาลสันกำแพงถูกจัดให้เป็นสถานที่รักษาผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง โดยกล่าวขอบคุณแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ และได้มอบชุด PPE หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ให้แก่โรงพยาบาลไว้ใช้ในการตรวจรักษาคนไข้โควิด-19 ด้วย จากนั้นได้พูดคุย แลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รักษาจนหายและออกจากโรงพยาบาลสันกำแพงเป็นคนสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะแจกหน้ากากอนามัยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ อสม. และบุคลากรของโรงพยาบาลสันกำแพงด้วย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวขอบคุณชาวสันกำแพง และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสันกำแพง รวมทั้งพี่น้อง อสม.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ร่วมงานกันมาตลอด โดยโรงพยาบาลสันกำแพงเป็นโรงพยาบาลแรกของประเทศของกระทรวงสาธารณสุขที่แยกเป็นโรงพยาบาลของจังหวัดละ 1 แห่งในการปรับเป็นโรงพยาบาลพิเศษสำหรับผู้ป่วยโควิด ชื่นชมทุกภาคส่วนที่สามารถรับมือปัญหาจนสามารถรักษาผู้ป่วยหายจนไม่มีผู้ติดเชื้อแล้วในขณะนี้
ทั้งนี้ หวังว่าหากเราการ์ดไม่ตก มีความระมัดระวัง และเข้าใจเราก็จะสามารถอยู่กับโรคนี้ได้อย่างไม่ลำบากมากนัก ต่อจากนี้ก็จะมีมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ออกมาเพื่อให้เราท่านทั้งหลายได้กลับมาใช้ชีวิต กลับมาทำมาหากินได้อย่างปกติสุข แต่ก็ต้องระวังให้เรามีความปลอดภัยจากเชื้อโควิดมากที่สุด โดยยกเรื่องของ New Normal หรือการใช้วิถีชีวิตแบบใหม่ ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้านจนกว่าเราจะค้นพบวัคซีน ซึ่งชาวไทยได้รณรงค์ให้ทั้งผู้ป่วย และผู้ไม่ป่วยสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่แล้วจึงทำให้ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคในบ้านเราน้อยกว่าประเทศอื่นๆ เว้นระยะห่างตามมตรการ social distancing สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวเชียงใหม่เป็นสำคัญ
ขณะที่นายแพทย์ ณรงค์เดช พิพัฒน์ธนวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสันกำแพง กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนภารกิจของ รพ.สันกำแพงเป็นศูนย์โควิดฯ ก่อนหน้านี้ก็ดำเนินการสร้างความเข้าใจลดกระแสการต่อต้านจากชุมชน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของโรงพยาบาลเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด ซึ่งทุกขั้นตอนมีการซักซ้อมชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่ และในช่วงของการปฏิบัติงาน 29 มีนาคม 63 ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 63 ที่ผ่านมาเป็นเวลา 34 วัน มีการประชุมแก้ไขปัญหาระบบงานทุกวัน จนได้รับการประเมินระดับความพึงพอใจจากผู้ป่วยโควิด 13 รายที่เข้ามารับการรักษาอยู่ในระดับที่ดี มีความพึงพอใจมากในการให้บริการ มีทั้งกำลังใจ ของบริจาค และยอดเงินบริจาคเข้ามายังโรงพยาบาลสันกำแพงกว่า 3.3 ล้านบาท โดยผู้ป่วยรายสุดท้ายรักษาหายและออกจากโรงพยาบาลสันกำแพงเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา