นครปฐม - คดีพลิกผลตรวจจากแพทย์พบไอ้หนุ่มหมัดเมาไม่มีอาการทางจิตเวช แต่ผลปัสสาวะพบสารเสพติด คาดพูดจาไม่รู้เรื่องเพราะหลอนยา หรือตบตาตำรวจ สุดท้ายคอตกถูกส่งศาลดำเนินคดีทั้งเสพยา และทำร้ายร่างกาย
วันนี้ (10 พ.ค.) จากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปชายกลางคนเข้าทำร้ายร่างกายชายชราที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย สาขาพระปฐมเจดีย์ ตรงข้ามตลาดทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ใกล้สถานีรถไฟนครปฐม โดยปรากฏเป็นคลิปที่ถูกประชาชนในจังหวัดนครปฐมต่างพูดถึงเป็นกระแสดังมาหลายวัน หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผู้กำกับการตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้มีการเข้าจับกุมทันทีและสอบสวนเบื้องต้นพูดจาวกวนไปมา จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อให้ทำการตรวจร่างกายและตรวจสอบด้านจิตเวช โดยทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรศักดิ์ หรือบอล อายุ 38 ปี ซึ่งมักมีพฤติกรรมเดินขอเงินและบุหรี่จากชาวบ้านลักษณะข่มขู่ จนเป็นที่หวาดกลัวของผู้ที่พบเห็น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา
หลังการจับกุมได้เพียงคืนเดียวนายสุรศักดิ์ หรือบอล ได้กลับออกมาวนเวียนอยู่ที่ตลาดและยังมีพฤติกรรมที่เหมือนเดิมคือเดินถอดเสื้อตรงเข้าหาเป้าหมายด้วยท่าทีไม่เป็นปกติและจ้องหน้าเพื่อขอเงินและบุหรี่ เป็นพฤติกรรมเดียวกับการก่อเหตุบุกรัวหมัดชายชราตามที่ปรากฏเป็นข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวมาอีกครั้ง ซึ่งก็ปรากฏเช่นเดิมคือ พูดจาไม่รู้เรื่องเช่นเดิม และสอบถามพบว่าได้หลบหนีออกมาจากโรงพยาบาลนครปฐม หลังนอนพักได้เพียงคืนเดียว ซึ่งตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยว่าลักษณะเหมือนคนเมายาจึงได้ทำการตรวจปัสสาวะ และควบคุมตัวไปที่โรงพยาบาลนครปฐม เพื่อเตรียมตัวจะส่งสถาบันกัลยาราชนครินทร์ โดยขอตรวจสอบทางนิติเวชเบื้องต้นก่อน และได้ควบคุมตัวมาไว้ที่ห้องขังที่ สภ.เมืองนครปฐม
โดยเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ผลการตรวจเบื้องต้นจากแพทย์โรงพยาบาลนครปฐม พบว่า นายสุรศักดิ์ หรือบอล นั้นไม่ได้มีความผิดปกติทางด้านจิตเวช แต่ค่าเลือดในร่างกายนั้นมีปัญหาบางส่วน ซึ่งผลการตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง มีสารเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ซึ่งคาดว่าอาการเพี้ยนน่าจะมาจากการเมายาบ้า จึงได้ทำการจับกุมตัวและได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาไว้ก่อน และเชื่อว่าบางครั้งที่พูดจาเพี้ยนหลอกว่าเป็นคนดูแลรถให้เจ้าชายอังกฤษ ที่ถูกจับกุมในครั้งแรกและอ้างว่ากลับมาจากการถ่ายแบบที่ประเทศญี่ปุ่น ในการถูกจับกุมอีกวัน อาจจะทั้งหลอนและหลอกตบตาตำรวจ
ต่อมา เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ขณะที่ ร.ต.ท.อานนท์ จันทร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม กำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้มีนายแก่น เซี่ยงฉี อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ อยู่บ้านเลขที่ 371/1 ซอยทางรถไฟตะวันตก 1 ถนนทางรถไฟตะวันตก ตำบลนครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เดินทางเข้ามาพบพร้อมแจ้งความประสงค์ว่าจะขอแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาความผิดต่อนายสุรศักดิ์ หรือบอล ในข้อหาทำร้ายร่างกาย
โดยเบื้องต้นได้รับแจ้งความไว้โดยได้ทำการสอบปากคำ และนำภาพของผู้ก่อเหตุมาให้ชี้ ซึ่งแม้สายตาของนายแก่น จะมองไม่ชัดแต่ก็สามารถยืนยันว่า นายสุรศักดิ์ เป็นคนที่ทำร้าย จากนั้นได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายเพื่อประกอบในสำนวนเพื่อแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายต่อไป
ด้านลุงแก่น บอกว่า วันเกิดเหตุตนเองได้มาที่ธนาคาร เพื่อนำสมุดเงินจะมาให้เจ้าหน้าที่ช่วยปรับหน้าบุ๊กว่าได้รับเงิน 5 พันบาทที่รัฐบาลเยียวยาหรือไม่ ซึ่งพบว่ามีเงินเข้าในงวดแรกแล้ว โดยกำลังดีใจว่าจะมีเงินเก็บส่วนตัวช่วงวิกฤต และได้นำบัตรเอทีเอ็มมาถือรอเพื่อจะให้พนักงานมากดเงินเพื่อเอาเงินเบี้ยคนชรารายเดือนให้ 600 บาท เนื่องจากกดไม่เป็น ขณะที่กำลังรอไม่รู้ว่าชายคนดังกล่าวเดินตามมา แต่เห็นว่าอยู่ถนนฝั่งตรงข้าม ซึ่งได้บอกว่าขอเงิน 20 บาท ตนเองก็บอกว่าไม่มี และก็ได้ขอบุหรี่สูบ ตนเองก็บอกว่าไม่มีเพราะตนเองไม่กินเหล้าและสูบหรี่ตั้งแต่หนุ่ม
ไม่ทันจบประโยคชายคนดังกล่าวก็ระดมชกตนเองไม่ยั้งจำไม่ได้ว่ากี่หมัด ซึ่งตนเองได้แต่ปกป้องตัวเองเพิ่งมาเห็นภาพจากที่นักข่าวเปิดให้ดู ซึ่งตนเองได้ไปพบกับแม่ค้าขายสลากที่หน้าธนาคาร หลายคนก็บอกว่าให้กลับมาแจ้งความเนื่องจากชาวบ้านหวาดกลัว นายสุรศักดิ์ หรือบอล หลังเกิดเหตุ จึงได้ตัดสินใจทำเพื่อชาวบ้านจะได้อุ่นใจ คนร้ายจะได้ถูกจับดำเนินคดีไม่ออกมาทำร้ายคนอื่นอีก
โดยครั้งแรกที่ตนเองมาแจ้งความพบผู้หมวดคนนี้เป็นคนรับเรื่องซึ่งพูดจาดีแต่ตนเองรู้สึกกลัวว่าจะไปตรวจร่ายกายและจะมีคดีความกลัวจะมีความผิดไปด้วยเพราะไม่รู้หนังสือไม่เคยขึ้นโรงพักมีคดีความ และเห็นว่าเขาเป็นคนบ้าก็เลยไม่อยากเอาเรื่องและตนเองไม่ได้เจ็บมาก มีเพียงกกหูซ้ายมีบาดแผล หัวคิ้วขวามีอาการบวม หรือหัวบวมบางแห่ง แต่พอชาวบ้านขอร้องและมารู้ว่าไม่ได้ป่วยทางจิตจึงขอกลับมาแจ้งความ แม้รู้ว่าจะไม่ได้อะไรแต่ก็ทำให้ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าสบายใจ
ลุงแก่น บอกอีกว่า ปกติตนเองเป็นคนโสดไม่มีเมีย ลูก อาศัยไปนอนบ้านญาติในตัวเมืองนครปฐม หากบ้านเขามีคนเยอะก็จะออกมานอนที่บ้านเพื่อน บางทีก็อาศัยนอนละแวกที่ถูกทำร้าย ส่วนตัวไม่เคยขอเงินใคร จะใช้เงินจากเบี้ยผู้สูงอายุซื้อข้าวประทังชีวิต และยึดแนวพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพิ่งจะได้เงินเยียวยา 5 พันบาท เป็นเงินก้อนมาเพื่อจะเก็บไว้กินยามแก่เป็นกำลังใจแต่ดันมาเกิดเหตุไม่คาดฝันเสียก่อน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสุรศักดิ์ หรือบอล ผู้ต้องหา ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด และทำร้ายร่างกาย ส่งตัวไปฝากขังที่ศาลแขวงนครปฐม เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายทั้ง 2 คดี โดยเรื่องเสพจะมีเจ้าหน้าที่เรือนจำมาควบคุมตัวส่งไปบำบัดหรือเข้ากระบวนการในสถานที่ที่ถูกกำหนดไว้ต่อไป ทั้งนี้สภาพของนายสุรศักดิ์ หรือบอล มีท่าทีตาขวางและไม่สะทกสะท้านกับสิ่งตนเองได้ทำลงไปเหมือนเช่นที่ชาวบ้านเห็นอยู่เป็นประจำ
ขณะที่ชาวบ้านที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า มีการพูดคุยถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่หลายคนได้พบและหวาดกลัว โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กจะมีความหวาดกลัวกับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มาก ถูกตำรวจจับกุมหลายหน แต่ก็กลับมาใช้ความรุนแรงในรอบล่าสุด โดยชาวบ้านขอให้จับไปไว้ในที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนทั่วไปด้วย