นครปฐม - ตำรวจตามรวบอีกรอบ หนุ่มหมัดหนักชกลุงหน้าตู้เอทีเอ็ม ผู้กำกับแจง ชาวบ้านนำเข้าส่ง รพ.แล้ว แต่ชายคนดังกล่าวหนีออกมาจากโรงพยาบาล ส่งตัวอีกรอบ พร้อมประสานคุมตัวระหว่างรอผลตรวจที่สถาบันกัลยาราชนครินทร์
จากกรณี นายสุรศักดิ์ จันทวงศ์ อายุ 38 ปี หรือบอล ซึ่งก่อเหตุชกชายสูงวัยที่หน้าตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย สาขาพระปฐมเจดีย์ ตรงข้ามตลาดทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ สะพานเจริญศรัทธา และมีการแชร์บนโลกโซเชียลจนเป็นที่วิจารณ์กันอย่างหนัก โดย พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครปฐม ได้สั่งการให้ควบคุมตัวและนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อทำการรักษา แต่มีการพบตัวในวันรุ่งขึ้น ทำให้เกิดกระแสความตื่นกลัวของชาวบ้าน
ล่าสุด เวลา 16.40 น. วันนี้ (8 พ.ค.) ขณะที่ร.ต.อ.อดุลย์ อาระหัง รอง สวป. พร้อมสายตรวจรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ได้ติดตามตัวในช่วงบ่าย ได้พบนายสุรศักดิ์ กำลังเดินอยู่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี สาขานครปฐม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เพื่อนำตัวมายัง สภ.เมืองนครปฐม
โดยเมื่อผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ได้เข้าสอบถามข้อมูลเบื้องต้น นายสุรศักดิ์ ก็ยังพูดจาวกวน จากเมื่อวานที่บอกว่าดูแลรถให้เจ้าชายอังกฤษ วันนี้บอกว่าเพิ่งกลับจากถ่ายแบบที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเบื้องต้น ได้ให้ตรวจปัสสาวะไว้ และยังพบว่าที่ข้อมือขวายังมีป้ายแท็กผู้ป่วยของโรงพยาบาลติดข้อมืออยู่
โดย พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ได้ให้ข้อมูลว่า หลังจากตำรวจได้ทำการจับกุมนายสุรศักดิ์ ไปแล้วเมื่อวาน ซึ่งได้ส่งตัวไปยังสถาบันกัลยาราชนครรินทร์ แต่ได้รับการแจ้งว่าจะต้องส่งให้โรงพยาบาลนครปฐม ทำการตรวจและส่งผลเพื่อทำการส่งตัว จึงได้ให้กลับมาตรวจสภาพจิตและตรวจเลือด โดยได้รับตัวไว้แล้ว
แต่ในช่วงสายที่มีการพบตัวนายสุรศักดิ์ กลับออกมาเดินแถวตลาดซอย 2 อีก เมื่อตรวจสอบข้อมูล พบว่า ได้หลบหนีออกมาจากโรงพยาบาล หลังจากจับตัวได้อีกครั้ง จะทำหนังสือให้มีการตรวจสอบอาการทางจิตเวช ซึ่งหากทางโรงพยาบาลไม่สามารถดูแลไว้ได้เนื่องจากติดภารกิจในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ทาง สภ.เมือง จะรับตัวมาควบคุมตัวไว้ให้ เพื่อจะรอส่งตัวต่อไป ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าตำรวจไม่ได้ปล่อยตัว ซึ่งกระแสสังคมได้วิจารณ์ว่าตำรวจจับตัวไปแล้วปล่อยตัวออกมาอีก
ทั้งนี้ พฤติกรรมของนายสุรศักดิ์ นั้น นอกจากจะเดินข่มขู่ชาวบ้านเพื่อขอบุหรี่และเงินแล้ว ยังมีการพยายามลวมลามหญิงสาวหลายคนที่ส่งเงินให้ เช่น การจับมือ เดินตามประกบ บางครั้งเอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ดกระจกรถบนถนนเพื่อขอเงิน แต่ช่วงนี้แสดงความเกรี้ยวกราดออกมา อาจจะเป็นเพราะอากาศร้อนจัด และชาวบ้านไม่ค่อยให้เงินเนื่องจากไม่มีรายได้ จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19