บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.ชำนิ ออกหมายเรียก “ไอ้หื่น” เพิ่งพ้นโทษฝ่าเคอร์ฟิวบุกงัดหน้าต่างเข้าไปขืนใจหญิงวัย 52 ปี ขณะนอนหลับในบ้าน ทั้งขู่ฆ่ายกครัว ด้านแม่ยอมรับลูกชายเคยก่อเหตุข่มขืนลูกสาวญาติ และเชื่อครั้งนี้ลูกทำจริง วอนมอบตัวห่วงไม่มีข้าวกิน
วันนี้ (9 พ.ค. ) ความคืบหน้ากรณีที่ นายพงษ์เทพ อายุประมาณ 40-50 ปี เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำมาไม่นาน ได้ก่อเหตุบุกงัดหน้าต่างเข้าไปใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน นางเหลือ (นามสมมติ) อายุ 52 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านใกล้กันใน ต.หนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ขณะนอนหลับอยู่ในห้องคนเดียว เนื่องจากสามีไปทำงานต่างประเทศ และลูกชาย 2 คนไปทำงานต่างจังหวัด เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า ของวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เหยื่อฮึดสู้จึงข่มขืนไม่สำเร็จ แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายทั้งตบ ต่อย กระชากผม บีบคอจนร่างกายเขียวช้ำ ทั้งยังข่มขู่จะฆ่ายกครัว หากนำเรื่องไปแจ้งความ จนสร้างความหวาดกลัวให้แก่เหยื่อและชาวบ้านในหมู่บ้าน เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังหลบหนีลอยนวล เกรงจะหวนกลับมาทำร้าย
ล่าสุด ร.ต.อ.สุเนตร อินทมนตรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชำนิ เจ้าของคดี ได้ออกหมายเรียก นายพงษ์เทพ ผู้ถูกกล่าวหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่หากไม่มา ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หากไม่มาตามหมายเรียกอีก จะออกหมายจับตามขั้นตอน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปยังบ้านของ นายพงษ์เทพ ผู้ถูกกล่าวหา พบเพียงนางเติม (นามสมมติ) อายุ 60 ปี แม่ของ นายพงษ์เทพ นั่งเลี้ยงหลานอยู่หน้าบ้าน จากการสอบถามนางเติม บอกว่า ตั้งแต่ลูกชาย ถูกแจ้งความก็ไม่เคยเห็นลูกกลับมาบ้านอีกเลย พยายามไปถามหาที่บ้านญาติก็ไม่มีใครเห็น ตนจึงเดินทางไปที่โรงพักเพื่อบอกตำรวจว่าไม่สามารถติดต่อลูกชายได้ พร้อมฝากให้เจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมาย อย่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ หากลูกทำผิดจริงก็ให้ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย
เมื่อถามว่าเชื่อหรือไม่ว่าลูกชายบุกเข้าไปข่มขืนหญิงเพื่อนบ้านจริง แม่ตอบตามตรงว่าเชื่อเพราะถ้าลูกชายดื่มเหล้าเมาแล้วนิสัยจะเปลี่ยนกลายเป็นคนละคน แต่ไม่เชื่อว่าจะมีการข่มขู่พยายามเอาชีวิตผู้เสียหายตามที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ ยอมรับว่าเมื่อหลายปีก่อนลูกชายเคยไปข่มขืนลูกสาวของญาติพี่น้องตัวเอง แต่ไม่ถูกดำเนินคดีเพราะเป็นญาติจึงพูดคุยกันได้ ถามว่าหัวอกคนเป็นพ่อแม่เสียใจที่ลูกชายทำเรื่องไม่ดี แต่ถึงจะเป็นยังไงยังเป็นลูก แล้วที่ลูกหนีไปแบบนี้ก็เป็นห่วงไม่รู้ว่าจะได้กินข้าวหรือไม่ จึงอยากให้ลูกชายเข้ามอบตัวเพราะหากถูกตำรวจจับเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ยังมีข้าวให้กิน และหากทำผิดจริงก็คงแล้วแต่เวรแต่กรรม เพราะแม่คงทำอะไรไม่ได้