นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊ก “นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์” วานนี้ (26 เม.ย.) ระบุว่า สัปดาห์หน้ารัฐบาลจะพิจารณาการต่ออายุ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การคลาย Lock ในกิจการบางประเภท และ Curfew ท่ามกลางสถานการณ์คลาย Lock ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในหลายรัฐของ USA ที่แม้การระบาดจะยังไม่ลดลงถึงระดับที่น่าพอใจ บางรัฐ เช่น จอร์เจียยังอยู่ในระหว่างการระบาดถึง peak ด้วยซ้ำ แต่แรงกดดันให้คลาย Lock บางส่วนเริ่มจะแรงขึ้นเหมือนกันทั่วโลก เพราะกระทบต่อการทำมาหากินของชาวบ้านทั่วไป แรงกดดันในเมืองไทยก็เช่นเดียวกัน
ไทยสามารถคุมการระบาดได้ดี แม้ตัวเลขจะยังไม่มีหลักเดียวที่ต่ำกว่า 10 แต่ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่มีเพียง 15 ราย กระจายไปทั่วประเทศทั้ง กทม. ภูเก็ต ยะลา ชลบุรี และนครปฐม ตัวเลขต่ำกว่า 100 รายติดต่อกันมาตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 111 ราย จากนั้นตัวเลขต่ำกว่าวันละ 100 รายมาโดยตลอดตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. จนถึงวันนี้ คือ 26 เม.ย. รวม 18 วัน
ตัวเลข 14 วันสุดท้ายถึงวันนี้ คือ 28 , 34 , 28 , 29 , 28 , 33 , 32 , 27 , 19 , 15 , 13 , 15 , (11+42) และ15
เมื่อดูตัวเลขผู้เสียชีวิต 14 วันสุดท้าย คือ 2 , 1 , 2 , 3 , 1 , 0 , 0 , 0 , 0 , 1 , 1 , 0 , 1 , 0
เข้าเกณฑ์ stable พอที่จะเข้าระยะ2 ของการระบาด คือ Reopen,state by state หรือค่อยๆคลายLock ทีละเมือง ทีละกลุ่มอาชีพ ที่เห็นเสนอมากันแยะคือ 9 จังหวัดที่ไม่เคยมีผู้ป่วยเลย หรือในกรุงเทพฯก็ให้เริ่มเปิดได้ในบางกลุ่มอาชีพ เช่น ช่างทำผม ยิม ร้านค้าบางประเภท ขนาดเล็ก ฯลฯ
ปัญหาที่รอการประเมินคือคนไทยจากต่างประเทศที่จะกลับมาจำนวนสูงถึง 44,000 คน ศูนย์โควิดโดยกระทรวงการต่างประเทศวางแผนนำเข้าทุกวันเป็นเวลา 2 เดือนเศษ โดยสายการบิน Chartered flight วันละ 200 คน ผ่านด่านทางบกอีกวันละ 400 คน จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นหรือไม่
ผมว่าอย่ากังวลกับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เลย ทุกคนเป็นคนไทยที่ไปศึกษาเล่าเรียนเพื่อกลับมาทำประโยชน์ให้ชาติ เป็นแรงงานที่ไปทำงานต่างประเทศส่งรายได้กลับประเทศไทย หรือคนไทยที่ไปติดนโยบายปิดประเทศ ทั้งของไทยหรือของ ตปท.
คนไทยที่อยู่ต่างประเทศถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนไทย การห้ามคนไทยเข้ามาในราชอาณาจักรจะขัด รธน.ตามมาตรา39
ในระยะแรกของการระบาด เรากลัวว่าตัวเลขผู้ป่วยที่เพิ่มสูงจะทำให้บุคคลากร เตียง และวัสดุทางการแพทย์รองรับไม่ทัน จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตมากมายเหมือนสถานการณ์ในอิตาลีหรือสเปน แต่ปัจจุบัน เราควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เรามีระบบกักตัวผู้ที่กลับมาอย่างดี มีสถานที่กักตัวมากมายหลายแห่ง ทำให้ไม่อาจออกไปแพร่เชื้อได้
เรามีเตียงว่างมากพอ เพราะผู้ป่วยหายกลับบ้านไปจนเหลือเพียง 328 คน ควบคุมพวกเขาให้ดี ครบ 14 วันค่อยปล่อยกลับบ้าน ตรวจเชื้อให้ชัดเจนก่อนกลับ ไม่จำเป็นต้องให้ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ดูดี เพราะความจริงยังมีผู้ติดเชื้ออีกจำนวนมากที่ไม่ได้ตรวจ เพราะพวกเขาไม่แสดงอาการ
ถ้าตัวเลขจะเพิ่มไม่มีปัญหาแต่อย่างใด