ศูนย์ข่าวศรีราชา - “สนธยา” เผยชลบุรี-ระยอง จะมีอ่างเก็บน้ำเพิ่มพื้นที่ละ 1 แห่งภายใต้งบลงทุน 2 หมื่นล้าน หลัง คกก.พัฒนาโครงการอีอีซี เห็นชอบแนวทางจัดสรรน้ำให้เพียงพอรับภาคลงทุน และท่องเที่ยว ส่วนภัยแล้งเมืองพัทยาวันนี้รอดแล้ว
วันนี้ (9 พ.ค.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่ายังคงเพียงพอต่อความต้องการ แม้ปัจจุบันสภาพน้ำดิบในอ่างเก็บน้ำทั้ง 5 แห่งจะอยู่ในสภาพแห้งขอดจากปัญหาภัยแล้ง
โดยในขณะนี้สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคพัทยา ซึ่งมีสถานีสูบน้ำ จำนวน 6 แห่ง และมีกำลังการผลิตน้ำประปาสูงถึงวันละ 3.1 แสน ลบ.ม. โดยสามารถส่งให้เมืองเมืองพัทยาได้วันละ 2.6 แสน ลบ.ม.
“จากการประสานงานไปยังประปาสาขาพัทยา ทราบว่า การประปาฯ เองต้องไปผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยตู้ อ่างเก็บน้ำมาบฟักทอง และบ่อดินของเอกชนเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำ เพื่อให้สามารถผลิตน้ำแจกจ่ายให้แก่ประชาชนได้จนถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ จากนั้นคงต้องรอฝนที่คาดว่าจะตกต้องตามฤดูกาลเพื่อเติมปริมาณน้ำดิบในอ่างฯ แต่ในระยะนี้ต้องฝากให้พี่น้องประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดด้วย”
นายสนธยา ยังกล่าวอีกว่า การเกิดขึ้นของโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่จะทำให้เกิดการพัฒนาทั้งในเรื่องของที่ดิน นิคมอุตสาหกรรม รถไฟความเร็วสูง สนามบินนานาชาติ และเส้นทางคมนาคมรวมทั้งขนส่งเพื่อส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เพื่อผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศนั้น
น้ำ ก็ถือเป็นสาธารณูปโภคสำคัญที่จะต้องมีการจัดสรรให้เพียงพอ และล่าสุดคณะกรรมการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้ตั้งงบประมาณ จำนวน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างอ่างกักเก็บน้ำเพิ่มอีก 2 แห่งในพื้นที่ อ. บ้านค่าย จ.ระยอง และพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมในเขต อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 300 ไร่
และขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเมืองพัทยา และอำเภอบางละมุง ได้เร่งทำการสำรวจและเตรียมแผนในการออกแบบแล้ว นอกจากนั้น ชลประทานและการประปาส่วนภูมิภาค มีแผนที่จะวางท่อและผันน้ำ จากอ่างกักเก็บในพื้นที่อื่นๆ เพื่อสนับสนุนความต้องการใช้น้ำจนทำให้สถานการณ์การขาดแคลนน้ำในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ขณะนี้หมดไป และในอนาคตจะต้องมีการวางแผนดำเนินงานในระยะยาวร่วมกัน
