สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ผู้ถือหุ้น UREKA ศึกษาข้อมูลและใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น กรณีบริษัทย่อยของบริษัทจะเข้าลงทุนในโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปากับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติ
สืบเนื่องจาก บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) (UREKA) จะมีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 เมษายน 2563 เพื่อขออนุมัติให้บริษัทย่อยคือ บริษัท ยูเรกา ยูยู จำกัด (UU) เข้าลงทุนในโครงการจำหน่ายและผลิตน้ำประปาให้แก่ กปภ.สาขาพนัสนิคม จำนวน 2 โครงการ มูลค่าการลงทุน 237 ล้านบาท โดยจะจัดหาแหล่งเงินทุนจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นเดิมและกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบของ UREKA เห็นว่าการลงทุนในโครงการดังกล่าวสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับคู่สัญญาเป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีความมั่นคงสูง นอกจากนี้ นโยบายการส่งเสริมพื้นที่เขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกทำให้แนวโน้มความต้องการน้ำประปาในบริเวณโครงการจะมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น การลงทุนดังกล่าวจึงเป็นการสร้างโอกาสที่ดีในการทำธุรกิจต่อเนื่องในพื้นที่
อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติรายการดังกล่าว เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนของแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ในโครงการ โดยธนาคารผู้สนับสนุนยังอยู่ระหว่างพิจารณาให้สินเชื่อกับบริษัท และเงินระดมทุนส่วนทุนขึ้นอยู่กับการใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิม รวมทั้ง UU ยังไม่ได้ลงนามผูกพันให้ได้มาซึ่งที่ดินที่จำเป็นสำหรับโครงการ ได้แก่ การซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงงาน และการเช่าที่ดินที่เป็นแหล่งน้ำดิบเพื่อใช้ในการผลิตน้ำประปา จึงเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ไม่สามารถก่อสร้างและปฏิบัติตามภาระผูกพันในสัญญาซื้อขายน้ำประปากับ กปภ.ได้
ก.ล.ต.จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลโดยละเอียดและใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการรักษาประโยชน์ของตน พร้อมทั้งซักถามผู้บริหาร UREKA ถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนในการประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส (COVID-19) ก.ล.ต.สนับสนุนให้ผู้ถือหุ้นพิจารณามอบฉันทะให้กรรมการอิสระแทนการเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง และส่งคำถามล่วงหน้าก่อนวันประชุม