ตาก - รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อติดตามนักโทษสัญชาติพม่าที่ก่อเหตุหลบหนีจากรถคุมขังระหว่างการควบคุมเพื่อส่งมอบให้พม่า ผ่านไป 48 ชั่วโมงสามารถจับกุมตัวกลับมาได้เกือบทั้งหมดเหลือ อีก 2 คนคาดจับตัวได้ในเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่จัดชุดไล่ล่าตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนอีก 1 คนข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร พร้อมคณะนายตำรวจระดับสูงได้เดินทางมาที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ติดด่านพรมแดนถาวรแม่สอด แห่งที่ 1 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อประชุมและติดตามความคืบหน้าหลังจากเกิดเหตุนักโทษสัญชาติพม่าที่ต้องโทษในคดีอาญาในเรือนจำซึ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำแม่สอด และกำลังนำตัวส่งกลับประเทศพม่า แต่กลับก่อเหตุหลบหนีออกจากรถควบคุมผู้ต้องหาของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก โดยเหตุเกิดบริเวณถนนข้างด่านพรมแดนถาวรแม่สอด หน้าสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยมีนักโทษชายบนรถควบคุมผู้ต้องหาสองคัน จำนวน 27 คน จากทั้งหมด 51 คน ถูกคุมตัวมากับรถควบคุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คัน โดยนักโทษได้ฉวยโอกาสเปิดประตูรถแล้ววิ่งหลบหนีไปทางสะพานข้ามลำห้วยหนองต้นผึ่ง ห่างแนวชายแดนไทย-พม่า เพียง 200 เมตร หลังเกิดเหตุทหารที่เข้าเวรรักษาความปลอดภัยอยู่หน้าประตูด่านพรมแดนถาวรแม่สอด แห่งที่ 1 ที่เห็นนักโทษวิ่งหนีลงจากรถคุมผู้ต้องหาสามารถวิ่งจับกุมตัวได้ในที่เกิดเหตุได้หลายคน โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพนาทีที่กลุ่มนักโทษก่อเหตุได้อย่างชัดเจน
หลังเกิดเหตุตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ได้ประสานขอกำลังทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ตำรวจตระเวนชายแดนแม่สอดและอาสาสมัครในหมู่บ้านตามแนวชายแดนอำเภอแม่สอด ร่วมกันออกไล่ล่าปูพรมออกติดค้นหาตัวกลุ่มนักโทษทั้งหมด จนเวลาผ่านไปกว่า 48 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้เกือบทั้งหมดถูกนำตัวมาสอบสวนอย่างละเอียด เหลือเพียงสองรายเท่านั้นที่ยังค้นหาตัวไม่พบ
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า วันนี้มาประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าล่าสุด ทราบว่ามีผู้ต้องขังสัญชาติพม่าได้ก่อเหตุหลบหนีออกจากรถควบคุมรวมแล้ว 27 คน และเจ้าหน้าที่สามารถออกติดตามจับกุมมาได้เกือบทั้งหมดแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงสองรายเท่านั้นที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ คาดว่ายังหลบหนีอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศได้ประสานความร่วมมือในการร่วมกันค้าหาตัวทั้งสองคนโดยการสนธิกำลังทุกฝ่ายออกค้นหาตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องขังทั้งหมดอาจจะเกิดความเครียดและผิดหวังที่จะได้กลับบ้านในฝั่งประเทศพม่าหลังพ้นโทษในเรือนจำ เนื่องจากด่านพรมแดนทั้งสองประเทศปิดจากปัญหาโรคโควิด-19 ส่วนการปฏิบัติในการขนย้ายผู้ต้องขังในทุกคดีขณะนี้ตนเองได้สั่งการให้เพิ่มความรัดกุมตามแบบแผนการปฏิบัติและขั้นตอนรักษาความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันเหตุในลักษณะนี้ ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดขณะนี้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากไปก่อน และรอทางการพม่ารับส่งมอบตัวกลับประเทศต่อไป