xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กแป๊ะ” สั่งเร่งตามตัว 13 ต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีจากรถควบคุม ขณะเตรียมผลักดันกลับประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ผบ.ตร.กำชับเร่งติดตามจับกุม 13 ต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีจากรถควบคุมตัวผู้ต้องขัง ระหว่างทำการผลักดันส่งกลับประเทศ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ยันทุกคนปลอดเชื้อโควิด-19

วันนี้ (2 พ.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีผู้ต้องกักชาวเมียนมา ซึ่งได้รับโทษในคดีหลบหนีเข้าเมืองเสร็จสิ้น และอยู่ระหว่างทำการผลักดันส่งกลับ ได้หลบหนีขณะอยู่บนรถยนต์ควบคุมผู้ต้องขังนั้น ล่าสุด ได้รับรายงานจาก ตม.จว.ตาก ว่า เมื่อวันที่ (1 พ.ค. 63) เวลาประมาณ 09.30 น. ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ได้นำผู้ต้องกักที่คดีเสร็จสิ้น จากทางเรือนจำแม่สอด จำนวน 51 คน ซึ่งได้ส่งตัวมา เพื่อรอการผลักดันส่งกลับประเทศ ได้ขึ้นรถส่งกลับประเทศเมียนมา จำนวน 3 คัน โดยออกเดินทางจากพื้นที่พักรอเพื่อการส่งกลับ ตม.จว.ตาก ไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เมื่อไปถึงทาง ตม.เมียวดี ได้แจ้งให้นำตัวผู้ต้องกักทั้งหมดไปส่งฝั่งประเทศเมียนมา ซึ่งเมื่อไปถึง ตม.เมียวดี ได้แจ้งให้รอและขอประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางเมียนมาก่อน ต่อมาได้รับแจ้งจาก ตม.เมียวดี ว่า วันนี้ไม่อนุญาตให้ผลักดันส่งกลับ และขอให้รอการแจ้งผลกลับไปอีกครั้ง

“จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องกักทั้งหมดกลับมายังฝั่งไทย เพื่อกลับไปควบคุมยัง ตม.จว.ตาก ระหว่างทางบริเวณสามแยกไฟแดงบ้านท่าอาจ ซึ่งคาดว่าผู้ต้องกักได้ทำการทุบกุญแจที่ล็อกประตูลูกกรงด้านหลังของรถจนสามารถถอดออกได้ โดยรถยนต์ได้วิ่งต่อเนื่องกำลังจะถึงที่ตั้งของ ตม.จว.ตาก แต่เนื่องจากมีรถติดอยู่ด้านหน้า จึงได้จอดชะลอและปรากฏว่าผู้ต้องกักได้หลบหนีออกจากรถ โดยมีเจ้าหน้าที่ ตม.และ เจ้าหน้าที่ทหาร ช่วยติดตามในเบื้องต้นแล้วนำตัวมาไว้ที่ห้องกัก ตม.จว.ตาก ซึ่งพบว่ามีผู้ต้องกักที่หลบหนีไปได้จำนวน 13 คน” รองโฆษก ตร.กล่าวและว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จว.ตาก พร้อมด้วย ตำรวจตระเวนชายแดน สถานีตำรวจภูธรแม่สอด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหาร ได้ร่วมกันออกระดม ติดตาม ค้นหา ผู้ต้องกักที่หลบหนีที่เหลือ

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ในประเด็นที่มีข้อสงสัยของผู้ต้องกักชาวเมียนมาทั้ง 13 คน ที่หลบหนีไปนั้น อาจเป็นกลุ่มเสี่ยงหรืออาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือไม่นั้น ขอเรียนว่า ผู้ต้องกักทั้ง 13 คน อยู่ในความควบคุมของทางเรือนจำแม่สอด และห้องกัก ตม.จว.ตาก กว่า 14 วัน ซึ่งมีการตรวจวัดไข้อุณหภูมิร่างกายทุกวัน ตามมาตรการและข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีผู้ต้องกักรายใดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือติดเชื้อแต่อย่างใด

สำหรับการกระทำดังกล่าวของผู้ต้องกักเข้าข่ายความผิดฐาน “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และเป็นบุคคลต่างด้าวร่วมกันหลบหนีไประหว่างกักตัวหรือควบคุมตัว ไปยังสถานที่ใดๆ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522” ในส่วนความบกพร่องที่เกิดขึ้นนั้น พ.ต.อ.สังคม ตัดโส ผกก.ตม.จว.ตาก ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยหากเป็นการปล่อยปละละเลยหรือความประมาทเลินเล่อ ของผู้หนึ่งผู้ใดก็จะมีการดำเนินลงโทษทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามลำดับชั้น อย่างเด็ดขาด

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ล่าสุด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านความมั่นคง กำกับดูแล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจภูธรภาค 6 ในการประสานการปฏิบัติกับ ฝ่ายปกครอง ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องกักที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ตลอดจนประสานความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตามแนวตะเข็บชายแดน หรือ ช่องทางธรรมชาติ ในการสอดส่อง ตรวจตรา ติดตามนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย รวมทั้งได้กำชับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไปกำกับดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรับผิดชอบห้องกัก ห้องควบคุม รถยนต์บรรทุกควบคุม ผู้ต้องหา หรือ ผู้ต้องกัก ในทุกสถานีอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดความบกพร่อง ซ้ำซาก ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก พร้อมสั่งการให้ หัวหน้าสถานีและหัวหน้าด่าน หมั่นตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรง หรือ ความชำรุด อยู่เป็นประจำ เสริมสร้างมาตรการป้องกันเหตุให้รอบคอบ

หากพบเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร.1599 หรือ สายด่วน แจ้งเหตุด่วน-เหตุร้าย 191 หรือ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก โทร. 055-563-000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กำลังโหลดความคิดเห็น