ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา ประกาศเลิก Lock Down พื้นที่ 5 พ.ค.นี้ หลังครบกำหนดเฝ้าระวังการฟักเชื้อโควิด-19 จาก 14 เป็น 21 วัน ตามมาตรฐานสาธารณสุข ขณะ สสจ.ชลบุรี ระบุเข้าเกณฑ์พื้นที่สีขาวหลังไม่พบผู้ป่วยยาว 16 วัน ด้าน "บิ๊กแป๊ะ" ไม่หยุดเตรียมหารือภาคธุรกิจหาทางป้องกันต่อ
จากกรณีที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ อ.บางละมุง และเมืองพัทยา สูงเป็นอันดับ 1 ของ จ.ชลบุรี ในช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในพื้นที่ดังกล่าวมีมากถึง 41 ราย และยังมีผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย ซ้ำยังมีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในกลุ่มชาวต่างชาติที่เป็นพาหะสำคัญ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน อ.บางละมุง และเมืองพัทยา ต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขแบบเร่งด่วน
และ นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยาได้ประกาศนโยบาย Lock Down หรือมาตรการปิดพื้นที่เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดไม่ให้ลุกลามมากกว่าที่เป็นอยู่ พร้อมกำหนดจุดคัดกรอง 5 จุดในพื้นที่รอบนอกเมืองพัทยา เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลจากภายนอกนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่ และป้องกันคนในพื้นที่นำเชื้อแพร่กระจายสู่ภายนอก โดยได้เริ่มมาตรการปิดเมืองในครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกโครงการเนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
จากนั้นในวันที่ 16 เม.ย. เมืองพัทยา ได้ประกาศมาตรการ Lock Down รอบ 2 พร้อมให้ยกเลิกการตั้งจุดคัดกรองในฝั่งตะวันออกทั้ง 5 จุด และให้กำหนดจุดคัดกรองใหม่ในช่วงก่อนเข้าเขตตัวเมืองชั้นใน หรือที่เรียกกันว่าพื้นที่ “โซนไข่แดง” หลังได้รับรายงานจากแพทย์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ 33 รายที่พบในครั้งแรกเขต อ.บางละมุง มีผู้ป่วยมากถึง 26 ราย ที่อยู่ในเขตเมืองพัทยาชั้นใน ซึ่งมีชาวต่างชาติอยู่รวมกันมากถึง 2.8 พันคน
พร้อมประกาศการตั้งจุดคัดกรองใหม่ 8 จุด ที่ประกอบด้วย จุดที่ 1 หน้าโรงเรียนมารีวิทย์ จุดที่ 2 เมืองจำลอง จุดที่ 3 แยกพัทยาเหนือ จุดที่ 4 แยกพัทยากลาง จุดที่ 5 แยกพัทยาใต้ จุดที่ 6 แยกเทพประสิทธิ์ จุดที่ 7 แยกวัดบุณย์กัญจนาราม และจุดที่ 8 แยกอัยการ (ถนนสุขุมวิท ขาเข้ามุ่งหน้าไปยังจังหวัดชลบุรี
โดยการดำเนินการในทุกจุดจะมีเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา กระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง อาสาสมัคร และจิตอาสาร่วมตรวจสอบบุคคลทั้งบัตรประชาชน เอกสาร การตรวจวัดอุณหภูมิ ใบรับรองการทำงานในพื้นที่ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนจากนอกพื้นที่หากไม่มีความจำเป็นให้งดการเดินทางเข้าสู่เมืองพัทยา เพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดของโรค
ส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นและพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ หรือประกอบอาชีพใดๆ ก็ตาม จะต้องมีเอกสารขออนุญาตแสดงตนตามที่รัฐกำหนดไว้ ซึ่งสามารถใช้เอกสารเดียวกันกับที่ใช้ผ่านจุดคัดกรองในวันดีเดย์เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมาได้
ควบคู่ไปกับการนำเครื่อง Lamp test ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสจ.ชลบุรี จำนวน 2,000 ชุด ลุยตรวจสารคัดหลั่งจากผู้ต้องสงสัยที่จะสามารถรู้ผลว่าติดเชื้อหรือไม่ภายในเวลาเพียง 45 นาที ถือเป็นพื้นที่นำร่องที่แรกของประเทศไทย จนในวันนี้สามารถควบคุมผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังและรักษาได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้น
ล่าสุด นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้เผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่เมืองพัทยา ว่า หลังการดำเนินมาตรการ Lock Down พื้นที่อย่างเข้มข้น ทำให้ในวันนี้เมืองพัทยา ไม่มีการตรวจพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ย่างเข้าสู่วันที่ 16 แล้ว ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ยังได้ประกาศให้ทราบว่าเมืองพัทยา เป็นเขตที่เข้าข่ายพื้นที่สีขาว
“ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จากความร่วมมือร่วมใจจากทุกฝ่าย ทั้งภาคประชาชน และภาครัฐที่ร่วมกันดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา”
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติให้เมืองพัทยา จัดทำจุดคัดกรองหรือ Lock Down ต่อไปจนถึงวันที่ 4 พ.ค.นี้ และให้เปิดพื้นที่ตามปกติในวันที่ 5 พ.ค.ที่จะถึง
โดย นายสนธยา เผยว่า การเปิดเมืองในวันที่ 5 พ.ค.ถือเป็นการครบกำหนดการเฝ้าสังเกตวงจรการฟักเชื้อของไวรัสโควิด-19 จาก 14 วันเป็น 21 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าเมืองพัทยาจะปลอดจากเชื้อโรคไวรัสชนิดนี้ให้ได้มากที่สุด
"แต่สิ่งที่เป็นห่วงอยู่ก็คือ หลังจากที่เมืองพัทยา มีการควบคุมและป้องกันโรคได้ดีแล้ว แต่ปัญหาคือการนำเชื้อจากภายนอกเข้าสู่พื้นที่ ที่อาจจะทำให้การแพร่ระบาดลุกลามขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้คงต้องมีการประชุมพูดคุยและหาแนวทางในการป้องกันที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมต่อไป" นายสนธยา กล่าว
