บุรีรัมย์ - โผล่มอบตัวแล้ว หนุ่มบุรีรัมย์ขับรถส่งสินค้าแอบลักถอนเงินเยียวยา 5,000 บาท หนุ่มใหญ่ป่วยโรคไตเจาะคอนอนรักษาตัวที่ รพ.นางรอง เผยรับสารภาพสิ้นหลังตำรวจเค้นหนัก ระบุกดเอทีเอ็มเห็นเงินในบัญชีแล้วอยากได้ โดนแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหา
วันนี้ (29 เม.ย.) จากกรณีที่นางสุทาทิพย์ แก้วนะทะ ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.มานพ รอยประโคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งเป็นญาติที่มาเฝ้าไข้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลนางรอง ได้กดถอนเงินเยียวยา 5,000 บาท ของ นายณรงค์ศักดิ์ คล้ายกระแส อายุ 47 ปี พี่ชาย ที่วานไปช่วยกดเช็กยอดเงินให้ ขณะมานอนรักษาอาการป่วยโรคไตอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกันหายไป 3,000 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรีมย์ นายสมปอง สิมาเลาเต่า อายุ 34 ปี พนักงานขับรถขนส่งสินค้า เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง หลังถูกแจ้งความ โดยมี พ.ต.อ.ภควัต ธรรมดี ผกก.สภ.นางรอง พร้อม พ.ต.ต.ศิวัฒน์ กังศรานนท์ สว.สส.สภ.นางรอง และ ร.ต.อ.มานพ รอยประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.นางรอง ร่วมสอบปากคำ
โดยช่วงแรก นายสมปองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ถอนเงินไป แค่นำบัตรเอทีเอ็มไปกดดูเงินตามที่ผู้เสียหายฝากให้เช็กดูให้เท่านั้น แต่เมื่อตำรวจเค้นสอบอย่างหนักสุดท้ายยอมรับสารภาพว่าได้กดดูยอดเงินเยียวยาที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลนางรอง เมื่อวันที่ 22 เม.ย.จริง พอเห็นว่ามีเงินในบัญชี 5,000 บาท จึงเกิดความอยากได้ จึงกดถอนออกมา 3,000 บาท ซึ่งยังไม่ได้ใช้เงิน และพร้อมจะนำไปคืนให้ผู้เสียหาย พร้อมกับอ้างว่า ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แค่เห็นเงินในบัญชีแล้วเกิดความอยากได้เท่านั้น สอดคล้องกับข้อมูลของทางธนาคารที่ส่งให้ทางตำรวจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ 1. ลักทรัพย์ และ 2. ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
ทางด้าน นายณรงค์ศักดิ์ คล้ายกระแส ผู้เสียหายบอกว่า ดีใจที่นายสมปองยอมรับสารภาพว่าถอนเงินออกไปจริงและหากนำเงินมาคืนให้ก็พร้อมให้อภัยไม่ติดใจเอาเรื่อง ส่วนเรื่องคดีให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหลังจากนี้คงไม่กล้าฝากบัตรเอทีเอ็มไปกับใครอีก พร้อมฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชนด้วยว่าอย่าไว้ใจคร เพราะอาจจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับตน
