ศรีสะเกษ - ตำรวจโรงพักเมืองศรีสะเกษจับ 2 พระหนุ่มเมาซิ่งกระบะฝ่าเคอร์ฟิวกลางดึก ซ้ำอยู่ในอาการเมาหนักพูดจาไม่รู้เรื่อง ตรวจปัสสาวะมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกฎหมายกำหนด ถูกแจ้งข้อหาแหก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เมาแล้วขับ ก่อนนำตัวส่งเจ้าคณะอำเภอเมืองทำพิธีสึก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.15 น. วันนี้ (28 เม.ย.) ที่บริเวณถนนกลางหมู่บ้านก้านเหลือง ม.8 ต.หมากเขียบ อ.เมืองฯ จ.ศรีสะเกษ ร.ต.อ.มหานิยม นิยม รอง สวป.สภ.เมืองศรีสะเกษ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรป้องกันปราบปราม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ นายสุรนนท์ นนทา ปลัดอำเภอเมืองศรีสะเกษ นายอดุลย์ มณีย์ กำนันตำบลหมากเขียบ ได้ร่วมกันจับกุมตัวพระสงฆ์ที่ขับรถออกมาในช่วงเวลาเคอร์ฟิวที่ถนนในหมู่บ้านก้านเหลือง ต.หมากเขียบ
ตรวจสอบพบว่าพระสงฆ์ทั้ง 2 รูปอยู่ในอาการมึนเมาคล้ายกับดื่มสุรามาอย่างหนัก พูดจาวกวน ด้านท้ายรถกระบะพบกล่องบรรจุสุรายี่ห้อหนึ่ง มีขวดที่บรรจุน้ำคล้ายกับสุราที่ทำผสมขึ้นมาเองจำนวนหนึ่ง จึงได้ขอตรวจปัสสาวะพระทั้ง 2 รูปเพื่อหาแอลกอฮอล์ ปรากฏว่าพระทั้งคู่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงได้ควบคุมตัวไปยัง สภ.เมืองศรีสะเกษ
พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าพระทั้ง 2 รูปชื่อ พระวิสันต์ นามสกุลเดิมสุดทวี เป็นพระภิกษุสงฆ์สังกัดวัดบ้านสีกา ต.ศรีสำราญ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ และพระอัครเดช นามสกุลเดิมจันโมคา เป็นพระภิกษุสงฆ์สังกัดวัดบ้านแข้ ต.แข้ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ โดยพระวิสันต์ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน บน 3245 ศรีสะเกษ ส่วนพระอัครเดชนั่งมาด้วย ซึ่งการกระทำของพระทั้ง 2 รูปเข้าข่ายผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และผิดพระธรรมวินัยสงฆ์ จึงได้ร่วมกันนำตัวพระทั้ง 2 รูปไปให้ พระที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษทำการสึก
ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้แจ้งข้อกล่าวหต่อนายวิสันต์ สุดทวี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.9 ต.บึงบูรพ์ อ.บึงบูรพ์ จ.ศรีสะเกษ โดยกล่าวหาว่าฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00 น.ถึง 04.00 น.โดยไม่ได้รับยกเว้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และเมาสุราขณะขับรถ ทั้งได้แจ้งกล่าวหาต่อนายอัครเดช จันโมคา อายุ 3 1ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/153 ม.5 ต.กระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. โดยกล่าวหาว่าออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 22.00-04.00 น.ของวันถัดไปโดยไม่ได้รับการยกเว้น หรือเหตุจำเป็นอย่างอื่น โดยไม่ได้รับการยกเว้นจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
