ศูนย์ข่าวขอนแก่น-สาวขอนแก่นขับเก๋งพุ่งชน กลุ่มชายตั้งวงดื่มหน้าบ้าน จนมีผู้บาดเจ็บกว่า 3 ราย ยันชดใช้ให้ผู้เสียหายแน่ เผยเหตุจ่ายช้า หาเงินลำบากช่วงโควิด ระบาด ด้านหนุ่มผู้บาดเจ็บโพสต์โซเชียล สาวคู่กรณีใช้ชีวิตหรูหรา ไม่รับผิดชอบ
วันนี้ (25เม.ย.63) ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่ง โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิด วินาทีอุบัติเหตุรถเก๋งสีขาว พุ่งชนกลาง วงรับประทานอาหารหน้าบ้านหลังหนึ่ง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย พร้อมระบุข้อความว่า “หมดปัญญาจริงๆกับผู้หญิงคนนี้ เงินแม้แต่บาทเดียวก็ไม่ได้ ต่อเงินเหลือเท่านี้ๆ ผมก็ให้ แต่เหลี่ยมใส่ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ชีวิตดี๊ดีแค่ไหนก็ตามสตอรี่ตามในเฟสบุ๊กนั่นแหละครับ แชร์ๆ ไปครับ”
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Gm Chalisa” ซึ่งเป็นหญิงที่ขับรถเก๋งคันดังกล่าว โพสต์ข้อความโต้ตอบว่า “พรุ่งนี้เจอกันโรงพักขอนแก่นดำเนินตามคดีนะค่ะ พร้อมรับทุกอย่างที่ตัวเองทำ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดฟ้องเอาตามคดีเลยนะ จะยอมติดคุกเองไม่ต้องอธิบายยาว เจอกันพรุ่งนี้ ต้องแบบนี้”
ล่าสุดนายสรวิชญ์ คามวาสี อายุ 19 ปี หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกข้อเท้าหักและเย็บไปกว่าสิบเข็ม เปิดเผยว่า เรื่องการเยียวยารักษานั้น เบื้องต้นได้ตกลงกันไปแล้วแต่ทางคู่กรณีก็เงียบหายไป ซึ่งทางตนได้เรียกร้องให้ชดใช้ 20,000 บาท แต่จนกระทั่งวันนี้ตนยังไม่ได้เงินเลยสักบาท ทำให้ตนเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก และอยากขอความเป็นธรรมให้ตนด้วย เพราะตั้งแต่ตนได้รับบาดเจ็บก็ไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ต้องสูญเสียรายได้ และหมดเงินไปกับการรักษาเป็นจำนวนเงินมากพอสมควร
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบหญิงสาวคู่กรณี ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อจริง โดยใช้ชื่อเล่นว่า จีเอ็ม เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เกิดจากสาเหตุอะไร เป็นไปตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างหรือไม่ เพื่อที่จะได้ฟังความของทั้ง 2 ฝ่าย
หญิงคู่กรณีขับรถชน กล่าวว่ายอมรับว่าตัวเองผิดจริง ไม่เคยคิดจะหนีหายไปไหนพร้อมชดใช้ทุกกรณี ทุกครั้งที่ผู้ได้รับบาดเจ็บโทรหาตน ตนก็จะพูดด้วยเหตุผลทุกครั้งและมีการนัดหมาย เรื่องการชดใช้เยียวยาตลอด ซึ่งตนรู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกว่าทำไม คุยกันตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ต้องมาประจานโพสต์ลงเฟซบุ๊คอีก ทำให้คนที่เห็นโพสต์ต่างเข้าใจว่าตนเป็นคนไม่ดี และคอมเม้นต์ตนไปในทางเสียหาย ช่วงเวลานั้นตนยอมรับว่ากดดันมากทำให้โพสต์โต้ตอบกลับไปโดยที่ไม่ได้คิด
ส่วนเรื่องที่มีการพูดกันว่าตนใช้ชีวิตมีความสุขสบาย เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ตนและยายก็ช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาไปทีละเรื่อง อาจจะช้าบ้างแต่ก็ไม่เคยปัดปฏิเสธตามที่เป็นข่าวในโลกโซเชียล หากจะมองอีกมุมตนก็อาศัยอยู่กับยายสภาพบ้านและฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร มิหนำซ้ำตนต้องทำงานหารายได้ส่งตัวเองเรียนด้วย
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งทำให้ตนและยายไม่สามารถหาเงินมาชดใช้ค่าเสียหายได้ทันที ต้องทยอยจ่ายทีละส่วน โดยเฉพาะส่วนที่จะต้องจ่ายค่ารักษาให้กับคนที่กระดูกนิ้วเท้าหักได้โทรนัดเรียบร้อยแล้ว ว่าจะโอนให้ไม่เกินสิ้นเดือนเมษายนนี้แน่นอน