ประจวบคีรีขันธ์ - ปศุสัตว์เขต 7 เผยพบม้าหัวหิน-ชะอำ ป่วยตายจากกาฬโรคในม้าแล้วถึง 30 ตัว ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าของม้าพร้อมฝังไมโครชิปที่ม้า และเจาะเลือด ทำการฉีดวัคซีนซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมยับยั้งกาฬโรคม้า
วันนี้ (18 เม.ย.) ผศ.สพ.ญ.อ.สุวิชา เกษมสุวรรณ ภาควิชาสัตวแพทย์สาธารณสุขศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน พร้อมด้วย สพ.ญ.ดร.ศิริยา ชื่นกำไร สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลม้าโคราช ได้เดินทางลงพื้นที่หัวหินเนื่องจากเป็นที่ซึ่งพบม้าป่วยตายจากกาฬโรคในม้า โดยได้เดินทางไปยังห้องประชุมศูนย์รักษ์สุนัขหัวหิน และร่วมรับฟังสถานการณ์ของการระบาด จากนายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยปศุสัตว์อำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด ทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ที่เกี่ยวข้อง
โดยนายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวให้ข้อมูลว่า วันนี้พบม้าที่อยู่ในคอกของวัดอิติสุคโต หัวหิน ได้เกิดป่วยตาย 1 ตัว เมื่อส่งทีมสอบสวนโรคและเจ้าหน้าที่ไปดูพบว่ามีอาการเดียวกันกับม้าตัวอื่นๆ ที่ตายในพื้นที่หัวหิน ทำให้ขณะนี้มีม้าป่วยตายในพื้นที่ล่าสุดรวม 16 ตัวแล้ว สำหรับม้าตัวที่ตายวันนี้ ประมาณ 1 สัปดาห์ทางชมรมม้าชายหาดหัวหิน ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอหัวหิน ได้ร่วมกันทำคอกและติดตั้งมุ้งสีฟ้าครอบม้าทั้ง 13 ตัวของทางวัดเอาไว้ และมีการฉีดพ่นยาไปแล้ว ซึ่งคาดว่าตัวที่ตายล่าสุดน่าจะได้รับเชื้อมาก่อนที่จะมีการติดตั้งมุ้ง
ในขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์เขต 7 จังหวัดนครปฐม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ล่าสุดขณะนี้ ทั้งในพื้นที่อำเภอชะอำ-อำเภอหัวหิน ม้าตายไปแล้วรวมกัน 31 ตัว พื้นที่อำเภอชะอำ 15 ตัว ของอำเภอหัวหิน 16 ตัว และยังมีในส่วนของจังหวัดราชบุรีอีกส่วนหนึ่ง ที่ผ่านมา มีการลงพื้นที่ให้คำแนะนำแก่เจ้าของม้าในด้านต่างๆ เพื่อป้องกัน
อีกทั้งมีรายงานว่าในพื้นที่หัวหินมีม้าลาย 4 ตัว อยู่ในสวนสัตว์แห่งหนึ่ง เบื้องต้น พบว่ามีการนำเข้ามาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้ว และเบื้องต้นไม่พบว่ามีม้าลายป่วยแต่อย่างใด
ต่อมา เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ได้ร่วมประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าของม้าในชมรมม้าชายหาดหัวหิน และนายวัชระพงศ์ ไกรวาส ประธานชมรมม้าชายหาดหัวหิน เจ้าของม้าปราณบุรี สามร้อยยอด รวมกว่า 60 คน
โดย สพ.ญ.ดร.ศิริยา ชื่นกำไร สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลม้าโคราช ได้กล่าวให้เจ้าของมาได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สถานการณ์ของการระบาดของกาฬโรคแอฟริกาในม้า ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ ส่งผลทำให้ม้าตายในหลายพื้นที่ ทั้งที่ นครราชสีมา ชลบุรี ราชบุรี ชะอำ หัวหิน
และขณะนี้พบที่ จ.สระแก้ว ซึ่งมีความน่าเป็นห่วง ดังนั้น ทราบว่าทางกรมปศุสัตว์ได้มีการหาแนวทางในการแก้ไขเพื่อระงับการระบาดของกาฬโรคในม้า โดยล่าสุดทราบว่าได้มีการสั่งวัคซีนจากแอฟริกาเข้ามาถึงประเทศไทยแล้ว เพื่อมาฉีดให้แก่ม้าในพื้นที่ต่างๆ ที่มีการระบาดในรัศมีจากจุดระบาด 50 กม.
แต่ก่อนการดำเนินการ เจ้าของม้าทุกพื้นที่จะต้องเร่งติดตั้งมุ้งสีขาวให้เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งมุ้งสีฟ้าจะใช้ไม่ได้ผล โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์แต่ละจังหวัด ได้มีการสำรวจประชากรม้าทุกพื้นที่แล้ว และในสัปดาห์หน้ามุ้งจะถูกส่งลงมา ดังนั้น เมื่อมีการติดจั้งมุ้งเสร็จแล้ว ก็จะต้องดำเนินการฝังไมโครชิปที่ม้าทุกตัว และทำการเจาะเลือด เสร็จแล้วจึงจะฉีดวัคซีนให้แก่ม้าที่ไม่ป่วย
เพื่อเป็นการป้องกันโรคกาฬโรคในม้า โดยทางกรมปศุสัตว์ต้องมุ่งหวังที่จะหยุดให้ได้ ทั้งนี้ ม้าทุกตัวจะต้องอยู่ในมุ้งเพื่อป้องกันแมลงดูดเลือดที่จะเป็นพาหะนำโรค โดยเฉพาะลิ้น ประกอบกับช่วงนี้มีทั้งพายุฤดูร้อน และมีฝนตก ทำให้แมลงเพิ่มขึ้น ยิ่งลมแรงก็จะทำให้แมลงบินได้ไกลขึ้น
ด้าน นางวัชราพร ศิริวัฒนะ อายุ 57 ปี หนึ่งในเจ้าของม้าชายหาดหัวหิน กล่าวว่าตนเองเลี้ยงม้าไว้ถึง 6 ตัว ซึ่งที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้วที่ไม่ได้นำม้าลงไปที่ชายหาดให้อยู่แต่ในคอก ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และมาต่อเนื่องด้วยกาฬโรคในม้าที่ระบาด มีม้าตายที่หัวหิน ขณะนี้ลำบากมากเพราะไม่มีรายได้ ซึ่งยอมรับว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ให้คำแนะนำต่างๆ ทางตนเองก็ทำแต่ในส่วนของเรื่องมุ้งสีขาวนั้นยังไม่ได้ดำเนินการ
เนื่องจากไม่มีเงินที่จะไปทำแล้ว แต่ตอนนี้รู้สึกดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์มีโครงการจะนำมุ้งมาให้ รวมทั้งการที่จะมีการทำทะเบียนม้า และฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันกาฬโรคในม้า ตอนนี้พยามที่จะดูแลไม่ให้ม้าเกิดเจ็บป่วย ซึ่งพยามหมั่นสังเกตอาการต่างๆ ของม้าตัวเองทุกวัน