ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ (19ก.พ.) นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เรื่องการเร่งรัดเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ซึ่งยังไม่มีการเลือกตั้งมาเกือบ 6 ปีแล้ว ตั้งแต่มีการรัฐประหาร 22 พ.ค.57 และจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับกรอบดำเนินการ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 6 ฉบับ รวมถึงระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ยังล่าช้าอยู่ เพราะนอกจากจะมีรธน.ฉบับใหม่แล้ว ยังต้องมีกม.จัดตั้งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบ 5 ฉบับ และกม.เลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแก้เกี่ยวกับคุณสมบัติ แต่จะมีการควบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดบ้างหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแนวทางการแก้ไขประมวลกฎหมาย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งการกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น เป็นอำนาจของ ครม. โดยแจ้งให้ กกต. ทราบ เพื่อประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หลังจากมี กม.เลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว ก็ต้องมีการออกระเบียบที่เกี่ยวข้องอีก 10 ฉบับ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.62 ส่วนมหาดไทย ก็มีการสำรวจประชากร วันที่ 31 ธ.ค.62 แล้ว โดยสำรวจหมู่บ้านทั่วประเทศ ว่าหมู่บ้านใดมีจำนวนราษฎรไม่ถึง 25 คน จะต้องรวมหมู่บ้านให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่วนกกต. ก็จะมีการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ และแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อพร้อมแล้วก็จะมีการหารือกับครม. แต่ก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณ ซึ่งต้องใช้งบฯ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยได้ข้อมูล เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความพร้อมด้านงบประมาณ 7,702 แห่ง ส่วนอีก 150 แห่ง ยังไม่มีความพร้อมจัดการเลือกตั้งได้ แต่หากรัฐบาลจะประกาศให้จัดการเลือกตั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ไม่พร้อม ก็สามารถทำเรื่องขอใช้งบกลาง ได้ หรือใช้เงินทุนสำรองสะสม เพื่อจัดการเลือกตั้งได้
ส่วนกรอบเวลาที่จะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า สามารถแจ้งได้อย่างไม่เป็นทางการว่า จะมีการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น ภายในปี 2563 แต่จะเลือกตั้งในส่วนใดก่อน จะต้องโยงเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาล ไม่สามารถเลือกตั้งพร้อมกันได้ แต่องค์กรปกครองพิเศษอย่าง พัทยา หรือ กรุงเทพมหานคร สามารถจัดการเลือกตั้งซ้อนกับรูปแบบอื่นได้ หาก กกต.มีความพร้อม ก็คงหารือกับ ครม.ได้
พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ยังล่าช้าอยู่ เพราะนอกจากจะมีรธน.ฉบับใหม่แล้ว ยังต้องมีกม.จัดตั้งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบ 5 ฉบับ และกม.เลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแก้เกี่ยวกับคุณสมบัติ แต่จะมีการควบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดบ้างหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแนวทางการแก้ไขประมวลกฎหมาย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งการกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น เป็นอำนาจของ ครม. โดยแจ้งให้ กกต. ทราบ เพื่อประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า หลังจากมี กม.เลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว ก็ต้องมีการออกระเบียบที่เกี่ยวข้องอีก 10 ฉบับ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.62 ส่วนมหาดไทย ก็มีการสำรวจประชากร วันที่ 31 ธ.ค.62 แล้ว โดยสำรวจหมู่บ้านทั่วประเทศ ว่าหมู่บ้านใดมีจำนวนราษฎรไม่ถึง 25 คน จะต้องรวมหมู่บ้านให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ส่วนกกต. ก็จะมีการจัดอบรมเจ้าหน้าที่ และแบ่งเขตเลือกตั้ง เมื่อพร้อมแล้วก็จะมีการหารือกับครม. แต่ก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณ ซึ่งต้องใช้งบฯ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยได้ข้อมูล เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความพร้อมด้านงบประมาณ 7,702 แห่ง ส่วนอีก 150 แห่ง ยังไม่มีความพร้อมจัดการเลือกตั้งได้ แต่หากรัฐบาลจะประกาศให้จัดการเลือกตั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ไม่พร้อม ก็สามารถทำเรื่องขอใช้งบกลาง ได้ หรือใช้เงินทุนสำรองสะสม เพื่อจัดการเลือกตั้งได้
ส่วนกรอบเวลาที่จะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงว่า สามารถแจ้งได้อย่างไม่เป็นทางการว่า จะมีการเลือกตั้งส่วนท้องถิ่น ภายในปี 2563 แต่จะเลือกตั้งในส่วนใดก่อน จะต้องโยงเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาล ไม่สามารถเลือกตั้งพร้อมกันได้ แต่องค์กรปกครองพิเศษอย่าง พัทยา หรือ กรุงเทพมหานคร สามารถจัดการเลือกตั้งซ้อนกับรูปแบบอื่นได้ หาก กกต.มีความพร้อม ก็คงหารือกับ ครม.ได้