อุบลราชธานี - อาหารสำเร็จเมนูรสเลิศระดับโรงแรมหรูแต่ราคาตลาดสดของโรงแรมลายทองยังขายดีต่อเนื่อง ชาวอุบลฯ แห่เข้าคิวซื้อแน่นทุกวัน หลายคนบอกในภาวะปกติไม่สามารถซื้อกินได้ ขณะที่พนักงานพอใจส่วนแบ่งรายได้ 300-400 บาท/คน/วัน แม้น้อยกว่าเงินเดือนที่เคยได้ 2-3 หมื่นบาทก็ยังดีกว่าตกงาน
“มาซื้ออาหารสำเร็จของโรงแรมลายทองแทบวันเว้นวัน นอกจากอร่อยแล้ว ยังขายราคาถูกอีกด้วย ถ้าเป็นช่วงปกติพวกเราคงไม่สามารถซื้อกินอย่างนี้ได้ ต้องเข้าไปนั่งสั่งกินในร้านอาหารในโรงแรมเท่านั้น แต่ละจานไม่น่าต่ำกว่า 200-300 บาท” แม่บ้านรายหนึ่งบอกขณะยื่นเงินจ่ายค่ากับข้าวให้แก่พนักงานโรงแรมลายทอง 80 บาท เป็นเมนูปลาทอดลุยสวนกับอุ๊หน่อไม้ใส่ไก่
ในห้วงนี้หากใครได้ผ่านไปบนถนนพิชิตรังสรรค์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จะเห็นด้านหน้าโรงแรมลายทอง โรงแรมหรูชั้นแนวหน้าของจังหวัด มีประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ รวมไปถึงข้าราชการ พนักงานบริษัท ลูกจ้างห้างร้าน แม่บ้าน เข้าคิวซื้ออาหารปรุงสำเร็จหลากหลายเมนูที่โรงแรมนำมาวางขาย
ใครจะเชื่อว่าอาหารสำเร็จรูปตักใส่ถุงฝีมือเชฟโรงแรมหรูจะติดป้ายขายราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท สูงสุด 60 บาท แต่ละวันมีเมนูให้เลือกกินไม่ต่ำกว่า 10 เมนู โดยขายเพียงวันละ 1 รอบ คือ ช่วงบ่ายถึงเย็น ประชาชนที่ทราบข่าวจากปากต่อปากของคนในชุมชนหรือจากสื่อโซเชียลต่างมาเข้าแถวซื้อไปรับประทานที่บ้านอย่างหนาตาทุกวัน ทำเอาหลายคนเข้าใจผิดว่าโรงแรมลายทองตั้งโรงทานแจกอาหารด้วยซ้ำ
เหตุผลหลักที่มีผู้คนมายืนรอเข้าคิวซื้ออาหารถุงที่นี่เพราะเป็นอาหารปรุงสำเร็จที่ได้คุณภาพ เนื้อเป็นเนื้อ ปลาเป็นปลา ผักก็คัดมาอย่างดี ที่สำคัญราคาไม่ต่างจากร้านข้าวแกงในตลาดสด เช่น ต้มยำรวมมิตร ขายแค่ 60 บาท ปลาทอดลุยสวน 50 บาท อุ๊หน่อไม้ใส่ไก่ 30 บาท ข้าวผัดหยางโจว 20 บาท ฯลฯ
ส่วนความสะอาดถูกสุขอนามัย และได้สารอาหารครบ 5 หมู่ตามหลักโภชนาการหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึง ทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของโรงแรมระดับชั้นนำของจังหวัด
ในส่วนของพนักงานครัวเบเกอรีก็ยังทำของหวาน ทั้งพายสับปะรด สลัดผัก ขนมปังสังขยา ขนมจีนน้ำยา ซื้อไปกินร่วมกับอาหารหลัก ซึ่งก็มีราคาขายเพียง 20-30 บาทต่อกล่องเท่านั้น
จากการได้พูดคุยกับพนักงานหลายคนที่ยืนขายอาหารคาวหวาน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า โชคดีที่โรงแรมปิดบริการไปแล้วเพราะผลกระทบจากโรคระบาดร้ายโควิด-19 แต่เจ้านายยังใจดีไม่ทิ้งลูกจ้าง ยังมีงานให้ทำพอมีรายได้ใช้จ่ายจุนเจือครอบครัว แม้จะไม่มากเท่ากับเงินเดือนประจำที่ได้รับก่อนหน้านี้
“ตอนนี้ไม่ต้องคิดว่าเรามีรายได้มากหรือน้อยกว่าแต่ก่อน ขอแค่มีงานให้ทำ มีรายได้ใช้จ่ายแต่ละวันก็โอเคแล้ว มันเป็นวิกฤตที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือใช้จ่ายให้ประหยัด ไม่รู้ว่าโรคนี้มันจะหายไปเมื่อไหร่ ก็อยากให้ทุกคนอดทน สู้ๆ”
ณภพ ลายวิเศษกุล กรรมการผู้จัดการโรงแรมลายทอง เล่าถึงไอเดียพาพนักงานฝ่ายจัดเลี้ยงของโรงแรมทำอาหารถุงขายในราคาตลาดสด เพราะธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบจากโรคระบาดนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา จึงคิดหาทางช่วยเหลือพนักงานที่มีร่วม 100 ชีวิตอย่างไรให้มีรายได้เพื่อให้ทุกคนพร้อมกลับมาทำงานกันได้ตามปกติหลังผ่านสถานการณ์โรคระบาดไป
จึงสนับสนุนให้พนักงานมาช่วยกันทำอาหารถุงขาย โดยใช้อุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำอาหารของโรงแรม การปรุงอาหารก็เป็นไปตามมาตรฐานของโรงแรม คือ อาหารต้องสดใหม่ มีคุณภาพ สำคัญคือ รสชาติของอาหารต้องได้ครบ 5 หมู่ และต้องมีราคาถูก เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถซื้อไปกินได้ช่วงที่ทุกคนกำลังลำบากจากสภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้ด้วย
เมื่อลองทำก็ปรากฏได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนในจังหวัดเป็นอย่างดี มีคนมาซื้อไปกินในแต่ละวันจำนวนมาก ทำให้พนักงานมีรายได้จากการขายกับข้าวถุงวันหนึ่งตกคนละ 300-400 บาท แม้จะน้อยกว่าเงินเดือนที่เคยได้คนละ 20,000-30,000 บาท แต่ก็สามารถช่วยพยุงให้พนักงานอยู่รอดไปได้
ณภพบอกอีกว่า ทางโรงแรมไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับรายได้จากการทำอาหารถุงขายแต่อย่างใด ให้พวกเขาบริหารจัดการกันเอง เงินที่ได้จากการขายอาหารสำเร็จแต่ละวันมอบให้พนักงานนำไปแบ่งปันกันใช้จ่ายเพื่อให้รอดพ้นสถานการณ์นี้ไปให้ได้ ช่วงนี้ทุกคนลำบากไม่ต่างกัน ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกันไปตามสภาพ
สำหรับการกลับมาเปิดให้บริการใหม่ โรงแรมลายทองได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ 3 ระยะ โดยสิ่งแรกที่โรงแรมมีอยู่ คือ กำลังคน หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องของเงินทุนที่จะนำมาทำด้านการตลาดเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจไปได้ตามปกติ
สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีประชากรกว่า 1.8 ล้านคน ขณะนี้มียอดผู้ป่วยสะสมรวม 15 คน รักษาหายแล้ว 12 คน กลับบ้านได้ 8 คน ยังอยู่ในศูนย์สังเกตอาการต่อเนื่องมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี วิทยาเขตบ้านยางน้อย อำเภอเขื่องใน 4 คน และรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 3 คน ซึ่งผู้ป่วยทุกคนไม่มีอาการรุนแรง และไม่มียอดของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ด้วย