กาฬสินธุ์ - ถนนข้าวก่ำ กาฬสินธุ์เงียบเหงา หลังจากประกาศงดเล่นน้ำสงกรานต์ ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อของกาฬสินธุ์ยังคงที่ ประชาชนให้ความร่วมมือมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มที่
กาฬสินธุ์ - ถนนข้าวก่ำ กาฬสินธุ์เงียบเหงา หลังจากประกาศงดเล่นน้ำสงกรานต์ ขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อของกาฬสินธุ์ยังคงที่ ประชาชนให้ความร่วมมือมาตรการป้องกันโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มที่
วันนี้ (13 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ บนถนนอนรรฆนาค หรือถนนข้าวก่ำ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ที่ใช้เป็นเส้นหลักเล่นสาดน้ำในช่วงสงกรานต์ ไม่มีการตั้งเต็นท์หรือวางถังน้ำ ตั้งเครื่องเสียงเหมือนทุกปี หลังนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้ประกาศมาตรการเข้มข้นในการงดเล่นน้ำในกิจกรรมทุกชนิด ห้ามจำหน่ายสุรา แอลกอฮอล์
ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบ โดยตลอดความยาวของถนนข้าวก่ำราว 4 กิโลเมตรมีแลนด์มาร์กที่สำคัญคือวงเวียนไดโนเสาร์ เดิมเป็นจุดศูนย์กลางของถนนสงกรานต์ เป็นลานกิจกรรมสนุกสนานต่างๆ ในปีนี้มีเพียงป้ายปักเตือนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เท่านั้น และประชาชนได้ใช้สัญจรไปมาเป็นปกติ
ส่วนวงเวียนโปงลาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ตั้งโปงลางดนตรีพื้นเมืองของกาฬสินธุ์ มีการติดประกาศมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรคติดต่อให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องของการป้องกันดูแลสุขภาพ ให้รู้เท่าทันจากเชื้อไวรัสโควิด-19 มีหมายเลขเจ็บป่วยฉุกเฉิน 1132
วันนี้ (13 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ บนถนนอนรรฆนาค หรือถนนข้าวก่ำ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ที่ใช้เป็นเส้นหลักเล่นสาดน้ำในช่วงสงกรานต์ ไม่มีการตั้งเต็นท์หรือวางถังน้ำ ตั้งเครื่องเสียงเหมือนทุกปี หลังนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้ประกาศมาตรการเข้มข้นในการงดเล่นน้ำในกิจกรรมทุกชนิด ห้ามจำหน่ายสุรา แอลกอฮอล์
ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบ โดยตลอดความยาวของถนนข้าวก่ำราว 4 กิโลเมตรมีแลนด์มาร์กที่สำคัญคือวงเวียนไดโนเสาร์ เดิมเป็นจุดศูนย์กลางของถนนสงกรานต์ เป็นลานกิจกรรมสนุกสนานต่างๆ ในปีนี้มีเพียงป้ายปักเตือนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เท่านั้น และประชาชนได้ใช้สัญจรไปมาเป็นปกติ
ส่วนวงเวียนโปงลาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ตั้งโปงลางดนตรีพื้นเมืองของกาฬสินธุ์ มีการติดประกาศมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมโรคติดต่อให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องของการป้องกันดูแลสุขภาพ ให้รู้เท่าทันจากเชื้อไวรัสโควิด-19 มีหมายเลขเจ็บป่วยฉุกเฉิน 1132
ขณะที่หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคไวรัสโควิด-19 (covid-19) เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ รายงานจำนวนผู้ที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาว่า มีผู้กักกันตัวเองภายในที่พัก มีผู้เฝ้าระวังกักตัว 14 วัน มี 6 ราย ยอดสะสมเฝ้าระวังทั้งหมดของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์มีทั้งสิ้น 360 ราย ยอดสิ้นสุดระยะเฝ้าระวังสะสมที่ 164 ราย สุดท้ายผู้ได้รับการเฝ้าระวัง 14 วันมีทั้งสิ้น 169 ราย
ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ยอดสะสมที่ 15 ราย ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัดเข้ามาในพื้นที่ในวันที่ 12 เมษายน 2563 รายใหม่มีจำนวน 6 ราย ยอดสะสมมีจำนวน 345 ราย
ขณะที่หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคไวรัสโควิด-19 (covid-19) เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ รายงานจำนวนผู้ที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาว่า มีผู้กักกันตัวเองภายในที่พัก มีผู้เฝ้าระวังกักตัว 14 วัน มี 6 ราย ยอดสะสมเฝ้าระวังทั้งหมดของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์มีทั้งสิ้น 360 ราย ยอดสิ้นสุดระยะเฝ้าระวังสะสมที่ 164 ราย สุดท้ายผู้ได้รับการเฝ้าระวัง 14 วันมีทั้งสิ้น 169 ราย
ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ยอดสะสมที่ 15 ราย ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างจังหวัดเข้ามาในพื้นที่ในวันที่ 12 เมษายน 2563 รายใหม่มีจำนวน 6 ราย ยอดสะสมมีจำนวน 345 ราย
สำหรับภาพรวมทั้งจังหวัด ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอดสะสมยังคงเดิม 3 คน เข้าข่ายการสอบสวนโรค หรือ PUI มี 122 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อมี 115 ราย มีผู้เข้าข่ายรอการสอบสวนโรค รอผลการตรวจเชื้อ 4 ราย อยู่ในระยะการเฝ้าระวังมี 48 ราย สิ้นสุดการเฝ้าระวังมี 74 ราย จากยอดรวมทั้งหมด 120 ราย ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในระยะเฝ้าระวัง 14 วันมีทั้งสิ้น 158 ราย สิ้นสุดการเฝ้าระวังกักตัว 14 วัน ยอดคงเหลือการเฝ้าระวังอยู่ที่ 20 ราย
สำหรับภาพรวมทั้งจังหวัด ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอดสะสมยังคงเดิม 3 คน เข้าข่ายการสอบสวนโรค หรือ PUI มี 122 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อมี 115 ราย มีผู้เข้าข่ายรอการสอบสวนโรค รอผลการตรวจเชื้อ 4 ราย อยู่ในระยะการเฝ้าระวังมี 48 ราย สิ้นสุดการเฝ้าระวังมี 74 ราย จากยอดรวมทั้งหมด 120 ราย ส่วนผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในระยะเฝ้าระวัง 14 วันมีทั้งสิ้น 158 ราย สิ้นสุดการเฝ้าระวังกักตัว 14 วัน ยอดคงเหลือการเฝ้าระวังอยู่ที่ 20 ราย
ทางด้านผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนามาใน จ.กาฬสินธุ์ นับตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 หลังจากกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑลประกาศล็อกดาวน์ในพื้นที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีจำนวนทั้งหมด 21,329 ราย มีจำนวนผู้ที่สิ้นสุดการกักตัวเองทั้งสิ้น 13,718 ราย พร้อมกันนี้ยังคงมีผู้ต้องอยู่ในระยะเวลาเฝ้าระวัง 14 วัน เป็นจำนวน 7,848 ราย ตามที่คาดการณ์ไว้ว่าในช่วงสัปดาห์สงกรานต์จะมีผู้เข้ามาในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์อีก
ส่วน 4 ทหารเสือยังคงปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน โดยที่ไม่มีวันหยุด เฝ้าติดตามสังเกตการณ์ผู้ที่เข้ามาในพื้นที่อย่างเคร่งครัดรัดกุม เพื่อความสบายใจของประชาชนในพื้นที่ทั้งหมดของชาวกาฬสินธุ์