ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกฯ พัทยายัน Lock Down ต่อแม้วันแรกเกิดปัญหาวุ่น เผยปรับแผนใหม่เน้นกลุ่มเสี่ยงโซนไข่แดงที่มีชาวต่างชาติต้องเฝ้าระวังเกือบ 3 พันราย เบื้องต้น สั่งยกเลิกจุดคัดกรอง 5 จุดเดิม พร้อมเริ่มจุดใหม่อังคารหน้า เชื่อสกัดแพร่ระบาดโควิด-19 พื้นที่ชั้นในได้จริง
วันนี้ (10 เม.ย.) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงมาตรการ Lock Down Pattaya ด้วยการปิดเมืองเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ว่า การตั้งจุดคัดกรองทั้ง 5 จุด ประกอบด้วย บริเวณแยกกระทิงราย ซอยชัยพรวิถี ซอยพรประภานิมิต (สยามคันทรีคลับ) ซอยชัยพฤกษ์ และซอยแยกอัยการสำนักงานเขต 2 หรือห้วยใหญ่ ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนเพราะแม้จะได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี
แต่ก็มีประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะเดินทางเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของเมืองพัทยา แต่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังพื้นที่อื่น เช่น เมืองสัตหีบ หรือเมืองชลบุรี หรือในเขตพื้นที่ 5 เทศบาลที่มีจุดเชื่อมต่อระหว่างกัน ทำให้ต้องถูกบังคับเข้าจุดคัดกรองที่มีจราจรติดขัดเป็นทางยาว อีกทั้งยังเกิดปัญหาความไม่เข้าใจในเรื่องของการจัดทำใบรับรองเพื่อผ่านเข้าสู่เมืองพัทยาชั้นใน
และภายหลังจากการลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์และตรวจสอบสภาพปัญหาในช่วงค่ำที่ผ่านมา พร้อมด้วย นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง ก็ได้เรียกประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อเมืองพัทยาเป็นการเร่งด่วน เพื่อหาบทสรุปและวางแผนจัดแนวทางการปฏิบัติงานใหม่ รวมทั้งปรับเปลี่ยนการทำงาน เพื่อให้เกิดความสะดวกและคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
“แต่ยืนยันว่าจะไม่ยกเลิกมาตรการปิดเมืองพัทยา หรือ Lock Down อย่างเด็ดขาดเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่เมืองพัทยายังมีปัญหาอยู่มาก โดยเฉพาะกลุ่มชาวต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ชั้นในกว่า 2,800 คน ซึ่งจะต้องมีการตั้งจุดคัดกรองใหม่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด”
นายสนธยา ยังเผยอีกว่า ในวันนี้ได้มีคำสั่งยกเลิกการตั้งจุดคัดกรองเดิมทั้ง 5 ในฝั่งตะวันออกแล้ว และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รื้อแผงกั้นแบริเออร์ซึ่งปิดเส้นทางเข้าทั้งหมด โดยจะเปิดให้มีการจราจรตามปกติบนถนนเลียบทางรถไฟ และถนนสุขุมวิททั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เพื่อลดปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน
โดยจะตั้งจุดคัดกรองใหม่ในช่วงก่อนเข้าเขตตัวเมืองชั้นใน หรือที่เรียกกันว่าพื้นที่ “โซนไข่แดง” แทน เนื่องจากได้รับรายงานจากแพทย์ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ 33 รายในเขต อ.บางละมุง มีผู้ป่วยมากถึง 26 รายที่อยู่ในเขตเมืองพัทยาชั้นใน
อย่างไรก็ดี จากผลสรุปการหารือร่วมกันในหลายฝ่าย มีแนวทางที่จะจัดทำจุดคัดกรองในพื้นที่ชั้นในใหม่ ประกอบด้วย จุดคัดกรองวงเวียนปลาโลมา จุดคัดกรองปากทางพัทยาเหนือ บริเวณแยกปริญญาสาย 3 จุดคัดกรองถนนพัทยากลาง บริเวณแยกซอยอรุโณทัย จุดคัดกรองพัทยาใต้ บริเวณแยกซอยกอไผ่ และจุดคัดกรองจอมชายหาดจอมเทียน บริเวณถนนจอมเทียนสาย 2 ซึ่งแบ่งความรับผิดชอบทั้งในส่วนของเมืองพัทยา กระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง อาสาสมัคร จิตอาสา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 5 สถานี
และจะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเหมาะสมเพื่อวางแนวทางการคัดกรองอย่างเข้มข้น คาดว่าจะเริ่มปรับและดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมในวันอังคารที่ 14 เม.ย.นี้คาดว่าจะดำเนินการเป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
เล็งใช้เครื่อง Lamp test ตรวจกลุ่มเสี่ยงพื้นที่ชั้นในที่แรกของประเทศ
ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า โซนพื้นที่ไข่แดงของเมืองพัทยานั้น ปัจจุบันเมืองพัทยา ได้รับรายงานว่ามีบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือบุคคลที่เคยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโดยมีรายชื่อทั้งหมดแล้ว และจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบและสแกนอย่างเข้มข้น โดยใช้เครื่องมือที่ได้รับการสนับสนุนจาก สสจ.คือ Lamp test จำนวน 2,000 ชุด ถือเป็นพื้นที่นำร่องที่แรกของประเทศไทย
อุปกรณ์ดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือในการตรวจสารคัดหลั่งจากผู้ต้องสงสัยที่จะสามารถรู้ผลว่าติดเชื้อหรือไม่ภายในเวลาเพียง 45 นาที และหากตรวจพบผู้ติดเชื้อก็จะนำตัวมากักตัวเฝ้าระวังในพื้นที่ที่กำหนดคือโรงพยาบาลสนาม หรือจัดส่งตัวให้แพทย์ทำการรักษา ถือเป็นการป้องกันการแพร่กระจายขอเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเมืองพัทยาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้เมืองพัทยา จะได้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือจากประชาชน ในการดำเนินการตามมาตรการของรัฐอย่างเข้มข้น เพื่อสกัดกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ให้หมดไปจากเมืองพัทยา
