ชายแดนแม่สอด - ส่อบานปลาย..ทนายดังนำนักธุรกิจพม่าขึ้นโรงพักแม่สอด แจ้งความลูกน้องชายหญิง นำเงิน 16.5 ล้าน ข้ามฝั่งเตรียมโอนจ่ายค่าน้ำมันหลังแบงก์พม่าปิดหนีโควิด แต่เกิดหายตัวลึกลับกว่า 24 ชม. ขณะที่ข่าวสะพัดโดน ตร.ทางหลวงจับก่อนส่งเข้าส่วนกลาง
ความคืบหน้ากรณีตำรวจทางหลวงจับกุมผู้ต้องหาชายและหญิงชาวพม่า คือ นายเดดไป่อู อายุ 29 ปี น.ส.นามิทู อายุ 24 ปี พร้อมของกลางเงินสด (ธนบัตรไทย) ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 16,500 ฉบับ รวม 16.5 ล้านบาท ได้ที่ บริเวณถนนในหมู่บ้านวังตะเคียน หมู่ที่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีชาวพม่าลักลอบนำเงินสดจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) เข้ามาในประเทศไทย เมื่อนำกำลังเข้าตรวจสอบพบรถบรรทุกเป้าหมายยี่ห้อมาสด้า สีขาว ทะเบียน BGO IQ- 5686 ขับจากฝั่งพม่า ผ่านสะพานข้ามมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 เข้ามาในประเทศไทยมาถึงบริเวณถนนในหมู่บ้านวังตะเคียน ห่างจากด่านศุลการกร 200 เมตร จึงสกัดรถให้หยุดเพื่อตรวจสอบ
พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมีหนังสือเดินทางถูกต้อง ตรวจค้นรถพบถุงพลาสติกสีแดงซ้อนถุงสีดำ 2 ถุง บรรจุธนบัตรไทย ฉบับละ 1 พันบาท รวม 16,500 ฉบับ คิดเป็นเงิน 16,500,000 บาท ทั้งคู่อ้างว่าจะนำเงินทั้งหมดมาฝากเข้าธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่สอด จ.ตาก แต่ไม่สามารถนำเอกสารหรือหลักฐานมายืนยันแสดงกับเจ้าหน้าที่ได้ จึงแจ้งข้อหาร่วมกันนำเข้าเงินตราสกุลไทยเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากรนำตัวทั้งคู่พร้อมเงินสดมาสอบสวนที่ สทล.1 กก.5 บก.ทล.(แม่สอด)
ต่อมาได้มีการนำผู้ต้องหาทั้งคู่พร้อมเงินสดส่งมอบให้กองบังคับการปราบปราม เพื่อสืบสวนขยายผลหาที่มาที่ไปของเงินดังกล่าว รวมทั้งให้กองปราบปรามประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินคดีฐานฟอกเงินอีกคดี เนื่องจากเข้าเงื่อนไขฐานความผิด 16 ข้อหา เพื่อหาเส้นทางการเงินอีกทางหนึ่งด้วย
ล่าสุด บ่ายวันนี้ (8 เม.ย.) นายจ่อเฮง อายุ 50 ปี นักธุรกิจค้าน้ำมันและอีกหลายธุรกิจในฝั่งจังหวัดเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ พร้อมนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ได้เดินทางมาที่ สภ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด หลังเกิดเหตุสองพนักงานชายหญิงของนายจ่อเฮง นำเงินสดจำนวน 16.5 ล้านบาท ข้ามมาฝั่งไทยเพื่อโอนผ่านธนาคารในแม่สอดเป็นค่าน้ำมัน แล้วหายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมรถยนต์
โดยหลังเกิดเหตุสองพนักงานชายหญิงหายตัวไปพร้อมเงินสด 16.5 ล้านบาท นักธุรกิจในฝั่งจังหวัดเมียวดี ได้ประสานมายังนักธุรกิจอาวุโสในฝั่งแม่สอดเพื่อขอประสานตำรวจช่วยออกติดตามค้นหาตัวทั้งสอง หลังเกรงว่าพนักงานทั้งสองจะได้รับอันตรายเนื่องจากขาดการติดต่อเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ก่อนจะเข้าร้องทุกข์ดังกล่าว
ด้านนายอนันต์ชัย ทนายความชื่อดังกล่าวเบื้องต้นว่า ได้รับการประสานจากนักธุรกิจทั้งไทยและพม่า ให้มาช่วยติดตามคดีการหายตัวของพนักงานทั้งสอง เบื้องต้นทราบว่าเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.) แบงก์ในเมียวดีหยุดทำการเนื่องจากอยู่ในการป้องกันสกัดโรคโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถทำธุรกรรมด้านการเงินได้ตามปกติ โดยเฉพาะการโอนเงินค่าน้ำมันระหว่างประเทศ นายจ่อเฮงจึงให้พนักงานทั้งสองนำเงินสดจำนวน 16.5 ล้านบาทมาโอนที่ธนาคารในเขตแม่สอด แต่ระหว่างที่พนักงานทั้งสองเดินทางโดยรถยนต์ได้ถูกกลุ่มชายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่หลายคนขอเข้าตรวจค้นรถยนต์และควบคุมตัวพนักงานทั้งสองไปสอบสวนพร้อมเงินสด แต่เวลาผ่านไปนานกว่า 24 ชั่วโมงก็ไม่ปรากฏว่ามีการส่งตัวพนักงานทั้งสองมาดำเนินคดีที่ สภ.แม่สอด และไม่สามารถติดต่อหาตัวพนักงานทั้งสองได้ทำให้หลายคนเป็นห่วง หลังจากนี้จะยื่นหนังสือร้องเรียนไปที่คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ