xs
xsm
sm
md
lg

กองปราบฯ ลุยสอบเงิน 16 ล้าน ผกก.5 ทางหลวง ยันขณะจับผู้ต้องหาไม่โชว์แสดงหลักฐานชี้แจง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม




MGR Online - กองปราบตั้งทีมสอบสวนขยายผลยึดเงิน 16 ล้าน ด้าน ผกก.5 ทางหลวงสวนทนายคนดังว่าระหว่างจับกุมผู้ต้องหาไม่ได้นำเอกสารใดๆ ออกมาชี้แจงแก่ทางเจ้าหน้าที่ตามที่กล่าวอ้าง

วันนี้ (9 เม.ย.) พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.กล่าวถึงกรณีตำรวจทางหลวงยึดเงินสดจำนวน 16.5 ล้านบาทจากชายหญิงชาวเมียนมา ว่า การกระทำของตำรวจทางหลวงเป็นไปตามอำนาจและกฎหมายที่สามารถกระทำได้ เนื่องจากระหว่างการจับกุมชาวเมียนมาทั้ง 2 รายนั้น ไม่สามารถ ชี้แจงแหล่งที่มาของเงินจำนวนมากถึง 16 ล้านบาทได้ รวมทั้งยังผ่านด่านตรวจเข้ามาโดยไม่ได้มีการสำแดงต่อศุลกากรตามกฎหมาย ซึ่งภายหลังจากได้รับรายงานจากตำรวจทางหลวงในพื้นที่ จึงสั่งการให้ถ่ายภาพหมายเลขธนบัตรทุกใบไว้เป็นหลักฐาน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าของกลางทั้งหมดจะไม่เล็ดลอดหลุดหายไปได้ รวมทั้งตนเองเป็นผู้สั่งการให้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางไปสอบสวนขยายผลต่อที่กองปราบปราม เนื่องจากเงินมีจำนวนมาก รวมถึงยังมีพฤติการณ์น่าสงสัย ยืนยันว่า เป็นการทำตามขั้นตอนของกฎหมายนอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยัง ปปง.เพื่อให้ช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงิน ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตัวผู้เสียหาย สามารถนำเอกสารมาชี้แจงถึงที่มาของเงินจำนวนดังกล่าวได้ทุกเมื่อ

ด้าน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวว่าสำหรับคดีดังกล่าวต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมายเบื้องต้นได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงส่วนที่ไปที่มาของเงินนั้น ทางเจ้าของก็ต้องมาชี้แจงความบริสุทธิ์ใจว่าเงินของกลางนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไรยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

ส่วน พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.5 บก.ทล. กล่าวว่า กรณีที่ทาง นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ได้ออกมาระบุว่า ขณะเข้าจับกุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมพิจารณาหลักฐานเกี่ยวกับเงินที่ทำการซื้อขายกับ ปตท. จากผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่พยายามนำมาแสดงให้กับทางเจ้าหน้าที่นั้น ตนอยากชี้แจงในส่วนนี้ ว่า ขณะที่เข้าทำการจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ไม่ได้มีการนำเอกสารใดๆ ออกมาชี้แจงแก่ทางเจ้าหน้าที่ตามที่กล่าวอ้าง แต่อย่างใดอีกทั้งต่อให้แม้ว่าผู้ต้องหาจะนำเอกสารดังกล่าวออกมาขี้แจงก็ไม่เป็นผล เพราะเจ้าหน้าที่ก็ยังคงต้องจับกุมอยู่ดี เนื่องจากการจับกุมและตรวจยึดเงินของกลางดังกล่าวนั้น เป็นการจับกุมจากความผิดที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นำเงินจำนวนมากเข้ามาภายในประเทศ โดยไม่ได้มีการสำแดงต่อศุลกากรตามกฎหมายไม่ใช่จับกุม เพราะไม่รู้ที่ไปที่มาของเงิน อยากให้เข้าใจในส่วนนี้ด้วยส่วนเรื่องเงินนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไรในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าของเงินที่จะต้องนำไปแสดงต่อศาล

ทางด้าน พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป.กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องไว้ ได้ตั้งคณะกรรมการพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป.ขึ้นมา เพื่อทำคดีนี้แล้ว รวมทั้งได้ประสานให้กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจพิสูจน์เงินดังกล่าวเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวน ทั้งนี้ จากการสอบสวนชายหญิง ชาวเมียนมาที่ขนเงินดังกล่าวมา ทั้งคู่ไม่สามารถนำหลักฐาน หรือเอกสารยืนยันที่มาของเงินดังกล่าวได้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันนำเข้าเงินตราสกุลไทยเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร

พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะประสานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เนื่องจากเข้าเงื่อนไขฐานความผิด16 ข้อหา เพื่อสืบสวนหาเส้นทางการเงินดังกล่าวว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรส่วนผู้ต้องหาชายหญิงชาวเมียนมา ได้ให้พนักงานสอบสวนนำตัวทั้งคู่ ส่งศาลอาญารัชดาฯ ผัดฟ้องฝากขังต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น