ลำปาง - อุทาหรณ์ไม่อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ..ลำปางหลุดจังหวัดปลอดเชื้อ พบผู้ป่วยยืนยันติดโควิด-19 เพิ่มอีก รวม 4 ราย ล้วนเป็นคนในครอบครัวแม่ค้าสาวตลาดรถไฟรัชดาฯ ที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงกลับบ้าน
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดลำปาง ล่าสุดขณะนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย อายุ 36 ปี เป็นน้องชายของแม่ค้าตลาดรถไฟรัชดาฯ กรุงเทพมหานคร ที่เดินทางกลับมาบ้าน กระทั่งมีคนในครอบครัวติดเชื้อไปแล้ว 3 ราย และมีคนในครอบครัว-ผู้สัมผัส ถูกกักตัวเป็นวันที่ 5 โดยที่ยังไม่พบการติดเชื้ออีก 7 ราย
ทั้งนี้ หากย้อนดูไทม์ไลน์ ผู้ป่วยยืนยันรายแรกของลำปางซึ่งเป็นหญิงอายุ 58 ปี เจ้าของร้านขายของชำในพื้นที่หมู่ 7 ต.หลวงใต้ อ.งาว จ.ลำปาง เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังอยู่แล้ว ไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงมาก่อนหน้านี้ แต่เริ่มมีอาการป่วยเมื่อ 31 มี.ค. เข้ารับการรักษาตัวเมื่อ 2 เม.ย.ที่ รพ.งาว
ขณะที่ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นหญิง อายุ 42 ปี (ลูกสาวผู้ป่วยรายแรก) เป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าตลาดนัดรถไฟรัชดาฯ กรุงเทพฯ เริ่มป่วยเมื่อ 17 มี.ค.ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ไม่ได้ไปรักษาที่ไหน กระทั่ง 22 มี.ค.ได้ไปหาหมอ รพ.งาว ด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดหัวมา 5 วัน แพทย์ได้รักษาตามอาการและนัดพบวันรุ่งขึ้น แต่ผู้ป่วยไม่ไปตามนัด จนวันที่ 26 มี.ค.ได้ไปหาหมอที่คลินิกโรคทางเดินหายใจ พร้อมขอทำ Lab Code แต่ไม่เข้าเกณฑ์สงสัยติดเชื้อเพราะให้ประวัติว่าเพื่อนชาวญี่ปุ่นไม่มีอาการป่วยจึงกลับบ้านแยกตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านน้ำจำ วัดไข้ทุกวันแล้วไม่พบว่ามีไข้
ทั้งนี้ ผู้ป่วยหญิงรายนี้ระหว่างอยู่กรุงเทพฯ พักอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมซึ่งมีอยู่ 2 ตึก (คอนโดฯ ที่พักมี 2 ตึก ตึกที่ผู้ป่วยพักไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อ ขณะที่อีกตึกหนึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อ) มีประวัติติดต่อกับเพื่อนชาวญี่ปุ่น (กลับญี่ปุ่นแล้วไม่มีอาการ) ระหว่าง 7-10 มี.ค. เดินทางไปห้างสรรพสินค้าเมื่อ 14 มี.ค. กระทั่ง 17 มี.ค.มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ 20 มี.ค. เดินทางด้วยเครื่องบินไทยสมายล์ จากสุวรรณภูมิ-เชียงราย 13.10 น. นั่งรถโดยสารสนามบิน-ขนส่ง และ รถตู้สายเชียงราย-แพร่ ออกเวลา 15.00-15.30 น.มาอำเภองาว โดยในรถตู้คันดังกล่าวมีผู้นั่งมาในรถรวม 5 คน
เมื่อมาถึง อ.งาว ผู้ป่วยรายนี้ได้ลงรถพร้อมกักตัวบนห้องพักชั้น 2 ของบ้านเพียงคนเดียว เนื่องจากรู้ว่าตัวเองมาจากพื้นที่เสี่ยง แต่ถึงแม้จะพยายามกักตัวอย่างไรก็ตาม แม่ (ผู้ป่วยยืนยันรายแรก) เป็นคนทำอาหารไปให้ และใช้มือจับลูกบิดประตูเพื่อเข้าออกห้องลูกสาว พร้อมกับได้ไปนั่งพูดคุยด้วยในบางครั้งทำให้เชื้อมีโอกาสแพร่ระบาดไปติดผู้เป็นแม่ได้
ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 3 เป็นหญิงอายุ 64 ปี เป็นพี่สาวของผู้ป่วยรายแรก (ป้า) ของแม่ค้าตลาดรถไฟฯ ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 2 แม้อยู่บ้านคนละหลัง แต่สนิทสนมไปมาหาสู่กันทุกวัน ไม่มีอาการไข้ แต่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เมื่อตรวจแล้วจึงพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งผู้ป่วยรายนี้อาศัยอยู่กับหลานชาย 2 คน สามีเสียชีวิต ส่วนลูกทำงานต่างจังหวัดไม่ได้กลับบ้าน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ ลำปาง บอกด้วยว่า กรณีพบผู้ป่วยในลำปาง และเชื่อว่าผู้ป่วยรายที่ 2 ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ป่วยรายแรกเป็นผู้นำเชื้อเข้ามาแพร่ให้กับแม่ ญาติ และคนลำปาง ถือเป็นบทเรียนหนึ่ง และอยากฝากว่าขณะนี้นโยบายของรัฐบาลไม่ให้มีการเคลื่อนที่ ทุกคนต้องเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ตราบใดที่เรายังมีการเคลื่อนที่ก็ยังมีความเสี่ยง ซึ่งไม่เสี่ยงเฉพาะตัวเองแต่เสี่ยงต่อคนอื่น
“ตราบใดที่ตัวเองมีความเสี่ยง แต่ไม่เก็บตัว ยังไปสร้างความเสี่ยงให้กับเพื่อนร่วมชุมชน เพื่อร่วมชาติ มันร้ายนะ ไม่รู้จะพูดยังไง เคสนี้หากเขาไม่กลับมา อยู่ในคอนโดฯ ก็ดีอยู่แล้ว อีกอาทิตย์เดียวก็จะครบ แล้วค่อยกลับมาทีหลังก็ได้ พอกลับมาก็มาทำให้แม่ป่วย ป้าป่วย ทั้งคู่เป็นผู้สูงอายุและต้องดูต่อไปว่าอาการจะเป็นอย่างไร”
ทั้งนี้ หากเขาอยู่ในที่ตั้งคือคอนโดฯ และไม่ออกมา ก็ไม่มีความเสี่ยงเลย พอออกมาความเสี่ยงเกิดขึ้นทันที ทั้งคนที่นั่งมากับรถตู้ คนนั่งเครื่องบินไทยสมายล์ หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านต้องถูกสั่งปิด คนเดือดร้อนเป็นพันคน และที่น่าเป็นห่วงคือทีมงานจังหวัดต้องเสียบุคลากรทางการแพทย์ไป เพราะมีบุคลากรทางการแพทย์ไปสัมผัสถึง 8 คน ก็ต้องดูแลพิเศษคือกักตัว
“ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เมื่ออยู่คอนโดฯ ดีอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องกลับมาสร้างความเสี่ยงให้กับคนอื่น ทั้งๆ ที่อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว น่าจะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ ทุกคนในจังหวัดลำปางทำงานกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย และเราทำได้ดีมากๆ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุกคน และพี่น้องชาวลำปางตลอดเวลาที่ผ่านมาจะเห็นว่าช่วง 2 สัปดาห์มานี้ สวมหน้ากากกันเกือบ 95% ให้ความร่วมมือในการอยู่บ้าน ปิดร้านค้า ปิดร้านขาย พวกเราเป็นคนดีมาโดยตลอด แต่พอเราพลาดครั้งเดียวในครั้งนี้เราต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ไม่เฉพาะที่งาว แต่ทุกพื้นที่ก็ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีก”
ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์กล่าวต่อว่า อยากกราบวิงวอนพี่น้องท่านอื่นหากไม่จำเป็นอย่าเคลื่อนย้ายเลย โดยเฉพาะจากจังหวัดที่เสี่ยงอย่าเพิ่งกลับมาเลย เพราะหากท่านกลับมาท่านก็จะมาสร้างความเสี่ยงให้แก่ญาติพี่น้อง ชุมชนของท่าน และสร้างความเหน็ดเหนื่อยให้เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่น้อยอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งจังหวัดก็จะต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปอีกเพื่อให้พี่น้องเกิดความปลอดภัยให้มากขึ้น
นพ.ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ลำปางมีนโยบายเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เต็มที่ เบื้องต้น สจจ.ได้จัดเตรียมโรงพยาบาลเฉพาะ ไว้รองรับแล้ว 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลเกาะคา 150 เตียง, โรงพยาบาลเวชชารักษ์ 60 เตียง และโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์มนตรี 20 เตียง โดยได้เริ่มพัฒนาทักษะแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลชุมชน จำนวน 38 คน จากทั้งหมด 13 อำเภอ เข้าฝึกอบรมภาคทฤษฎี ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง จากนั้นจะผลัดกันฝึกภาคปฏิบัติในหอผู้ป่วยวิกฤต ณ โรงพยาบาลลำปาง จำนวน 2 สัปดาห์ จากนั้นทีมแพทย์พยาบาล ที่ผ่านการฝึกอบรม แล้วจะเตรียมความพร้อมและให้การสนับสนุนการรักษา ณ Covid Hospital คือที่โรงพยาบาลเกาะคา และโรงพยาบาลเวชชารักษ์ต่อไป