xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.สบอ.3 ลุยจับและลดไฟป่าพื้นที่ จ.กาญจนบุรี พบจุด Hotspot ลดลงต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - ผู้อำนวยการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) สั่งลุยจับและลดไฟป่าพื้นที่ จ.กาญจนบุรี พบจุด Hotspot ลดลงต่อเนื่อง

วันนี้ (6 เม.ย.) นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า จากนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อผู้เผาป่าให้ถึงที่สุด และให้ลดจุด Hotspot ในจังหวัดกาญจนบุรีให้เป็นศูนย์

ที่ผ่านมา ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรที่อาศัยในเขตป่าในจังหวัดกาญจนบุรี ให้รู้ถึงพิษอันตรายหมอกควันไฟป่าจากการเผาป่า และลาดตระเวนอย่างเข้มข้นในพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดการเผาป่า จนสามารถจับกุมคดีเผาป่าได้ 2 คดี ผู้ต้องหา 3 คน คดีล่าสัตว์ป่า ต้นเหตุแห่งการเผาป่า ได้ 5 คดี ผู้ต้องหา 6 คน

คดีเผาป่าคดีแรกในวันที่ 2 มี.ค. จับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือ นายโจ่ข่ายทุ่ง ไม่มีนามสกุล นายแช้มนิอ่อง ไม่มีนามสกุล สัญชาติพม่า บริเวณป่าบ้านตะเคียนทอง หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ข้อหา เผาป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 ระวางโทษจำคุก 1 ปีถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท

คดีเผาป่าคดีที่ 2 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 จับกุมผู้ต้องหา 1คน คือ นายสมควร อักษรศาสตร์ อายุ 64 ปี ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนรินทร์ ในข้อหา เผาป่าในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปี ปรับตั้งแต่ 4 แสน ถึง 2 ล้าน

คดีล่าสัตว์ป่าคดีแรก วันที่ 6 มีนาคม 2563 จับตัวผู้กระทำผิด 2 คน คือ นายปัญญา เหมือนหงษ์ อายุ 64 ปี นายมงคล เหมือนหงษ์ อายุ 51 ปี ที่เกิดเหตุในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ของกลางมีรถจักรยานยนต์ 2 คัน อาวุธปืนลูกซองแฝดยาว 1 กระบอก ซากแย้ จำนวน 9 ซาก และอุปกรณ์อื่นๆ จำนวน 10 รายการ ดำเนินคดีในข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 54 พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสน

คดีสัตว์ป่าคดีที่ 2 วันที่ 6 มีนาคม 2563 จับตัวผู้กระทำผิด 2 คน ผู้ต้องหาคือ MR.U LIN (a ) Chay Z (สัญชาติพม่า) MS.HLA HLA HLAY (สัญชาติพม่า) ที่เกิดเหตุบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ของกลางมีรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา หมายเลขทะเบียน บหท3245 นครปฐม จำนวน 1 คัน ซากเลียงผา ประกอบด้วย ซากเนื้อ จำนวน 2 ซาก ซากเขา จำนวน 2 ซาก ดำเนินคดีในข้อหามีซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 17 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท

คดีสัตว์ป่าคดีที่ 3 วันที่ 9 มีนาคม 2563 ได้ตัวผู้กระทำผิด 1 คน คือ นายมิ้ว ไม่มีนามสกุล สัญชาติพม่า เหตุเกิดที่อุทยานแห่งชาติไทยโยค ของกลางมีอาวุธปืนแก๊ป 1กระบอก ดำเนินคดีในข้อหา นำเครื่องมือล่าสัตว์ หรืออาวุธล่าสัตว์เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 19(7) พ.ร.บ อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่น และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน 2490 มาตรา 7 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 พัน ถึง 2 หมื่นบาท

คดีสัตว์ป่าคดีที่ 4 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ไม่ได้ตัวผู้กระทำผิด เหตุเกิดที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ตรวจยึดรถจักยานยนต์ จำนวน 1 คัน ลูกปืน จำนวน 3 นัด ด้วงดักแย้ จำนวน 2 อัน

คดีสัตว์ป่าคดีที่ 5 เมือวันที่ 19 มีนาคม 2563 จับตัวผู้กระทำผิดได้ 1 คน คือนายวิเชียร วงศ์สุนันทา อายุ 53 ปี เหตุเกิดที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ในข้อหามาตรา 19 (7) นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต ระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน 2490 มาตรา 7 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 พัน ถึง 2 หมื่น บาท

จากการประชาสัมพันธ์และลาดตระเวนจับกุมอย่างเข้มข้น ทำให้จุด Hotspot จากดาวเทียม Suomi Npp ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ 4 เมษายน 2563 มีจุด Hotspot เขตป่าอนุรักษ์ในจังหวัดกาญจนบุรี มี 149 จุด ในวันที่ 5 เมษายน 2563 จุด Hotspot ลดลงเหลือ 78 จุด และในวันนี้ 6 เมษายน 2563 จุด Hotspot ลดลงเหลือ 25 จุด

ช่วงนี้จุด Hotspot ส่วนใหญ่จะเกิดระหว่างชายแดนไทย-พม่า ในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาสูงชัน การดับไฟป่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ถึงกระนั้นเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าก็จะเข้าไปทำการดับไฟป่า เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม และทรัพยากรป่าไม้ของจังหวัดกาญจนบุรี ให้คงเหลือไว้ให้มากที่สุดเพื่อลูกหลานในอนาคตต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น