นครพนม - ไม่ได้ล้อเล่น! จับจริงดำเนินคดีจริงที่นครพนม 1 ชายไทย 6 ชาวลาวแหกคำสั่งเคอร์ฟิว 23.00 น. นั่งรถตู้โดยสารเข้าพื้นที่หวังจะข้ามกลับฝั่งลาว ถูกตำรวจจับส่งดำเนินคดี ศาลสั่งจำคุก 15 วันไม่รอลงอาญา ด้านผู้ว่าฯ สั่งปิดสะพานไทย-ลาว 3 งดคนเข้าออก ห้ามต่างด้าวเข้าพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนคพรนม ยังคงเพิ่มความเข้มข้นในการยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้มีประกาศคำสั่งห้ามบุคคลต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ รวมถึงงดการอนุโลมการเดินทางเข้า-ออกบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2563
ส่วนรถบรรทุกสินค้ายังสามารถเดินทางขนส่งระหว่างประเทศได้พร้อมกับคนขับและพนักงานประจำรถเท่านั้น หากมีการออกนอกประเทศเกิน 5 ชั่วโมง เมื่อเข้ามาจะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการกักตัวเพื่อควบคุมโรค พร้อมมีคำสั่งเด็ดขาด หากพบบุคคลต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่จะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที
นอกจากนี้ ในช่วงคำสั่งเคอร์ฟิว ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทั้ง 12 อำเภอตั้งจุดตรวจสกัด คัดกรอง หากพบผู้ฝ่าฝืนจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มียกเว้น
ทางด้าน พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยถึงผลการดำเนินการทางคดี หลังมีการเพิ่มมาตรการเข้มตามคำสั่งรัฐบาลในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด รวมถึงคำสั่งเคอร์ฟิว ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นวันแรก ทางจังหวัดนครพนมบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานดูแลความเรียบร้อย แต่ปรากฏว่ายังพบผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดตั้งแต่วันแรก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้มีการจับกุมชาวไทย จำนวน 1 ราย พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวลาว จำนวน 5 ราย ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดเพื่อเข้ามาในพื้นที่หาทางข้ามไปยัง สปป.ลาว
ตรวจสอบพบนั่งรถตู้โดยสารมาบริเวณจุดตรวจคัดกรอง ถนนสกลนคร-นครพนม เขต ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ช่วงเวลา 23.00 น. ซึ่งถือเป็นช่วงประกาศเคอร์ฟิว ตรวจสอบมีเอกสารหนังสือเดินทางถูกต้อง จึงได้จับกุมดำเนินคดีในข้อหา ออกนอกเคหสถานเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ พร้อมนำตัวดำเนินคดี ส่งฟ้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ศาลจังหวัดนครพนมได้พิจารณาตัดสินเป็นกรณีแรก โดยตัดสินจำคุก 1 เดือน แต่ผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 15 วัน อีกทั้งผู้ต้องหาไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน เปลี่ยนโทษจากจำคุก 15 วัน เป็นกักขัง 15 วัน ก่อนควบคุมตัวนำส่งไปกักขังที่เรือนจำกลางนครพนม หลังพ้นโทษจะได้มีการผลักดันส่งกลับประเทศต่อไป